บลจ.เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ ชูผลตอบแทนสูง มองลงทุนทั้งในและต่างประเทศเป็นทางเลือกลงทุน
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดตราสารหนี้ไทยยังได้รับอิทธิพลจาก 2 ปัจจัย คือ ผลการตัดสินใจชะลอแผนการลดมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของสหรัฐอเมริกา (QE Tapering) และการประกาศตารางประมูลพันธบัตรรัฐบาลชุดใหม่ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2557 ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้ในช่วงต้นสัปดาห์อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรภาครัฐไทยปรับตัวลดลง โดยเฉพาะตราสารหนี้ระยะกลางและระยะยาว ในขณะที่ตราสารระยะสั้นไม่เกิน 1 ปีค่อนข้างทรงตัว และบางรุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนมีการขายตราสารระยะสั้นเพื่อไปลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนคาดว่าจะอยู่ในระดับจำกัด เนื่องจากตลาดการเงินส่วนใหญ่คาดว่ามาตรการลดอัดฉีดสภาพคล่องจะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้า และจะกระทบต่อกระแสเงินทุนระหว่างประเทศ แม้ว่าโดยภาพรวมเศรษฐกิจของไทยจะยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว ซึ่งเอื้อต่อการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่องไปถึงปีหน้า
ส่วนตลาดตราสารหนี้ในต่างประเทศ ผลจากการชะลอแผน QE Tapering ทำให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ปรับตัวลดลง ยกเว้นอัตราผลตอบแทนของเงินฝากและตราสารหนี้ของสถาบันการเงินบางประเทศที่ยังทรงตัวในระดับสูงเนื่องจากความต้องการระดมเงินในช่วงปลายปี นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ (แกว่งตัวในช่วง 31.00-31.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นผลบวกสำหรับการลงทุนในต่างประเทศหากมีการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยเมื่อแปลงอัตราผลตอบแทนกลับมาในรูปสกุลเงินบาทแล้วจะทำให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นและสูงกว่าการลงทุนในประเทศ ทั้งนี้ กองทุนที่บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับในช่วงเวลานี้ และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน พร้อมทั้งผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 36 ( KTFF36 ) ในวันที่ 2-8 ตุลาคม 2556 มูลค่า 7,000 ล้านบาท อายุโครงการ 1 ปี เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Bank of China, บัตรเงินฝาก China Construction Bank (Asia), MTN ออกโดย ICBC Asia Ltd., MTN ออกโดย Banco Do Brasil S.A., MTN ออกโดย BLADEX ในสัดส่วนบริษัทละ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.25% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ (Roll Over) กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1 (KTFIX6M1) ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2556 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝาก/บัตรเงินฝาก/ตั่วแลกเงินของธนาคารธนชาต ธนาคารทิสโก้ และธนาคาร ICBC ประเทศไทย ในสัดส่วน 41% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.45% ต่อปี