บลจ.วรรณมองปัญหา QE ยังไม่ชัดเจน ขณะที่การขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ อยู่ในช่วงหาจุดลงตัว ส่งผลให้ปัจจัยดังกล่าวกดดันตลาดตราสารหนี้ไทยและสหรัฐฯ แนะใช้กลยุทธ์กระจายพอร์ตการลงทุนช่วยลดความเสี่ยง
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงเวลาที่ผ่านมามีความผันผวนสูง เนื่องจากตลาดและนักลงทุนยังคงต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นของความไม่ชัดเจนในประเด็นการชะลอมาตรการผ่อนคลายในเชิงปริมาณทางการเงิน (QE) รวมถึงการขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ แม้ว่าสภาสูงของสหรัฐฯ จะโหวตร่างงบประมาณปี 2557 ไปหลังวันที่ 25 กันยายน 2556 และประเด็นการปรับเพดานหนี้สาธารณะก็น่าจะหาจุดลงตัวได้ โดยการยกเลิกเพดานหนี้เป็นการชั่วคราวจนถึงปีหน้า แต่ปัจจัยดังกล่าวก็ยังกดดันตลาดในระยะนี้ ทำให้เกิดความผันผวนต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธบัตรรัฐบาลไทย
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ จะเห็นว่าประเด็นด้านการเมืองยังกดดันสภาวะการลงทุนในช่วงนี้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศที่จะมีการเบิกจ่ายและนำไปลงทุนได้จริง แม้ว่าจะผ่านวาระ 3 ไปเรียบร้อยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 30 กันยายน 2556 นี้ก็ตาม
ด้วยปัจจัยทั้งในและนอกประเทศที่ยังไม่ชัดเจนข้างต้น ทำให้นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนในตลาดหุ้น โดยจะเห็นได้จาก SET Index ในเดือนสิงหาคมปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,462.22 จุด (14 สิงหาคม 2556) และต่ำสุดที่ระดับ 1,260.08 จุด (28 สิงหาคม 2556) และกลับมายืนอยู่ที่ระดับ 1,494.27 จุด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 ก่อนที่จะปรับตัวลดลง จะเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นลงแรงในระหว่างวันก่อนปิดตลาดจากแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดใหญ่-กลาง
อย่างไรก็ดี บลจ.วรรณประเมินว่า SET Index มีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 1,550 จุดในไตรมาส 4/56 แต่ในช่วงสั้นน่าจะเคลื่อนไหวระหว่าง 1,420-1,500 จุดและมีความผันผวนสูงมาก และอาจทำให้นักลงทุนบุคคลมีความเสี่ยงสูงจากการลงทุน จึงแนะนำให้นักลงทุนกระจายการลงทุนในกองทุนเปิด ONE-PREMIER เนื่องจากกองทุนนี้มีการมุ่งสร้างผลตอบแทนพอร์ตการลงทุนมากกว่าการปรับขึ้นลงตามสภาวะตลาดหุ้น
โดยกองทุนดังกล่าวจะกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ (Asset Allocation) ผ่านการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย (Multi Asset Classed) ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์ ทองคำ และน้ำมัน เป็นต้น และปรับสัดส่วนในแต่ละช่วงเวลาให้สอดคล้องไปกับแต่ละสถานการณ์การลงทุน โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนสามารถจ่ายคืนผลตอบแทนให้นักลงทุนไตรมาสละ 2%
ทั้งนี้ บลจ.วรรณสามารถบริหารจัดการกองทุน FLEXACTIVE4 ที่ใช้กลยุทธ์ Active Allocation เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดหุ้นผันผวน ซึ่งกองทุนเปิด วรรณ เฟล็กซิเบิ้ล แอ็คทีฟ ฟันด์ 4 (ONE-FLEXACTIVE4) สามารถให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุน 5.3% ของเงินลงทุนเริ่มแรก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 10.53 บาท โดยจะสับเปลี่ยนเข้ากองทุนเปิด 1AM-DAILY ในวันที่ 30 กันยายน 2556 นี้