หุ้นดิ่งเหวปิดลบ 47 จุด หรือ -3.27% ดัชนีหลุดแนวสำคัญ 1,400 จุด โบกรฯ ยอมรับตลาดหุ้นไทยทรุดตาม “จีดีพี” ร่วงหนักสุดในภูมิภาค ภาพรวมอ่อนแอกว่าที่คาดเอาไว้ นักลงทุนกังวล ศก.ชะลอตัวต่อเนื่อง 2 ไตรมาส กำลังเป็นสัญญาณไม่ดี แม้จะรู้ว่า ศก.ชะลอตัว แต่แรงขายในตลาดตอบรับข่าวที่รุนแรงเกินไป และดัชนีที่ลดลงส่งผลให้หุ้นหลายๆ ตัวเข้าเกณฑ์คอลมาร์เก็ตหรือเรียกหลักประกันเพิ่มเกิดขึ้น
ภาวะตลาหุ้นไทย วันนี้ (19 ส.ค.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,398.48 จุด ลดลง 47.28 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -3.27% มูลค่าการซื้อขาย 45,514.07 ล้านบาท โดยมีแรงขายหนักในหุ้นมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ นำโดยกลุ่มธนาคาร สื่อสาร และพลังงาน ส่งผลให้ดัชนีหลุดแนวสำคัญที่ 1,400 จุด ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ก่อนปิดตลาด
ยอมรับว่าภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนแอกว่าที่คาดเอาไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) หรือสภาพัฒน์ ประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 2/56 เติบโตเพียง 2.8% ต่ำกว่าคาด และลดลง 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน แสดงให้เห็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และอาจส่งผลให้นักวิเคราะห์ปรับประมาณการลงได้
สำหรับประเด็นการเมือง ขณะนี้คงจะต้องจับตาช่วงกลางสัปดาห์นี้ว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ หรือไม่ ถ้าไม่ได้จะเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก เนื่องจากนักลงทุนจะกลับมากังวลการชะลอตัวเศรษฐกิจในมุมมองที่แย่ลงไปอีก
นายพิชัย เลิศสุงพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงรุนแรงเกินซึ่งทำให้ดัชนีหลุดแล้วรับสำคัญที่1,400 จุด เป็นผลมาจากการที่ตัวเลขจีดีพีของประเทศช่วงไตรมาส 2 ออกมาต่ำขณะที่ตัวเลขทั้งปีจะโตเพียง 3.8-4.0% ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ตลาดรับรู้กันอยู่แล้วว่า เศรษฐกิจชะลอตัวแต่แรงขายในตลาดตอบรับข่าวที่รุนแรงเกินไป และดัชนีที่ลดลงส่งผลให้หุ้นหลายๆ ตัวเข้าเกณฑ์คอลมาร์เก็ตหรือเรียกหลักประกันเพิ่มเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ตัวเลขผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ออกมา ก็ทำให้มีการปรับลดประมารการกำไรและราคาเป้าหมายของแต่ละหุ้นลงกันไปก็เกิดขึ้นแล้วด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อดัชนีหลุดแล้วรับ 1,400 จุดก็มองว่าจะลงไปที่ 1,380 จุดและแนวรับที่ 1,420 จุด