xs
xsm
sm
md
lg

สรุปข่าวเด่นกองทุนดัง:เศรษฐกิจผวนแนะลงทุนกองบอนด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้าน ที่กำลังจะเข้าสภาในวันที่ 19 -20 กันยายน นี้ คาดว่าน่าจะสามารถผ่านไปได้ และกลับมาสร้างความคึกคักให้แก่ตลาดหุ้นไทยได้อีกครั้งหนึ่ง ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้น แนวโน้มของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะยังคงเคลื่อนไหวอย่างผันผวนตามปัจจัยที่เข้ามากระทบ ดังนั้นนักลงทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุน กับตราสารหนี้ได้คล่องตัว ซึ่งเหมาะสมต่อสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง

ส่วนในต่างประเทศมีการฟื้นตัวทางศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการว่างงานที่ลดลง หรือราคาบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนก็เริ่มเห็นการฟื้นตัวเช่นเดียวกัน ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้มีการขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ และการไหลออกของเงินทุน ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมีการปรับสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เฟดเริ่มส่งสัญญาณว่าจะทำการลด ถอน (Tapering) มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE)

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า หลาย ๆ บลจ. มีการออกกองทุนเข้ามาตราสารหนี้เพื่อไว้เป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุน โดย บลจ.วรรณ จะเปิดขายและรับซื้อคืนกองทุนเปิด 1ENHANCED3M1 ในระหว่างวันที่ 20 - 27 กันยายน 2556 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อย โดย 1ENHANCED3M1 จะลงทุนในตราสารหนี้ไทยอายุประมาณ 3 เดือน อัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3.25%ต่อปี โดยในรอบการลงทุนนี้ตราสารที่คาดว่าจะลงทุน ได้แก่ เงินฝากธนาคารทิสโก้ 2.00% ตั๋วแลกเงิน บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น 7.50% ตั๋วแลกเงิน บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอตุสาหกรรม 10.50% ตั๋วแลกเงิน บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ 12.50% ตั๋วแลกเงิน บมจ.เด็มโก้ 12.50% ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจ ลีสซิ่ง 13.50% ตั๋วแลกเงิน บจ.ธนบรรณ 13.50% ตั๋วแลกเงิน บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ 14.00% และตั๋วแลกเงิน บมจ.แกนด์ คาร์แนล 14.00% (ข้อมูล ณ วันที่ 18 กันยายน 56 ) ทั้งนี้ ตราสารที่คาดว่าจะลงทุน สัดส่วนการลงทุน และผลตอบแทนของตราสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดหรือตามที่ผู้จัดการกองทุนเห็นสมควร

ขณะที่เสนอขายกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการต่อเนื่องอีก 3 กอง คือ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน DA (KFI3MDA) อายุโครงการ 3 เดือน ประมาณการอัตราผลตอบแทน 2.75% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอไอ (KFF6MAI) อายุโครงการ 6 เดือน ประมาณการอัตราผลตอบแทน 2.95% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีแซท (KFF1YBZ) ประมาณการอัตราผลตอบแทน 3.15% ต่อปี เสนอขายระหว่างตั้งแต่วันนี้ - 23 กันยายน 2556

โดยตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน DA (KFI3MDA) จะเข้าลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง และตราสารหนี้ Banco Bradesco S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ A, A และ BBB+ ตามลำดับ ร่วมด้วยตราสารหนี้ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, ประเทศไทย (AAA/TRIS) และตราสารหนี้ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ AA-

ส่วนกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอไอ (KFF6MAI) จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (A+/Fitch) เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) ร่วมด้วยตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ตราสารหนี้ Banco Santander S.A. และตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ BBB+, BBB และ BBB- ตามลำดับ

ด้านกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีแซท (KFF1YBZ) จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า ตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ตราสารหนี้ Banco Santander S.A.,ประเทศบราซิล ด้วยเช่นเดียวกัน รวมทั้งยังลงทุนเพิ่มในตราสารหนี้ Banco do Brasil S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ BBB โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ขณะที่ บลจ. กรุงไทย เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย เฟล็กซิเบิ้ล ฟันด์ (KT-FLEX) ถึงวันที่ 25 กันยายน 2556 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นผสมตราสารหนี้ โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อให้เหมาะสมต่อสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยมีมูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ


กำลังโหลดความคิดเห็น