นักวิเคราะห์กองทุนรวมเผย นักลงทุนทั่วโลกยังมีความหวังกับมาตรการ QE3 แม้ความเป็นไปได้จะน้อยลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดูดีขึ้น พร้อมแนะนักลงทุนรอดูสถานการณ์พร้อมประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นก่อนเข้าลงทุน
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูดีขึ้นเมื่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าที่คาด ทำให้ความน่าจะเป็นที่ FED จะใช้มาตรการ QE3 ในเร็วๆ นี้น่าจะลดลงไป แต่นักลงทุนยังคงมีความหวังอยู่ทำให้ราคาทองคำไม่ได้ลดลงเยอะ แม้ว่าจะไม่มี QE3 ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่เรายังกังวลกับปัญหาหนี้ยุโรปอยู่ในช่วงครึ่งปีหลังทำให้เรายังคงน้ำหนักการลงทุนทองคำไว้ตามเดิม ส่วนการลงทุนในน้ำมัน ราคาได้ปรับตัวขึ้นจากความกังวลในตะวันออกกลาง และแรงหนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้เรายังคงแนะนำเก็งกำไรด้วยความระมัดระวังตามเดิม โดยกองทุนที่เราแนะนำยังคงเป็น ONE-OIL ซึ่งง่ายต่อการเก็งกำไรมากกว่ากองทุนน้ำมันกองอื่นๆ
ขณะเดียวกัน หลังจากที่สถานการณ์ในยุโรป และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูดีขึ้น ทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นมาเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไร เรายังคงแนะนำ JUMBO 25 ของ บลจ.ทหารไทย นอกจากนี้ SET Index ปรับขึ้นมาพอสมควรแล้ว ควรเริ่มพิจารณาทำกำไรบ้างบางส่วน สำหรับนักลงทุนระยะยาวเรายังคงเน้นการเฝ้ารอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป มองครึ่งปีหลังราคาสินทรัพย์เสี่ยงยังเป็นไปได้ที่จะผันผวนสูง ทำให้เราน่าจะมีโอกาสได้สะสมกองทุนหุ้น, LTF และ RMF ในราคาที่เหมาะสม ดังนั้น เราคงกลยุทธ์เดิม “Wait and See” และคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นตามเดิม
สำหรับการลงทุนในตลาดตราสารหนี้นั้นเรายังคงมองความผันผวนในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่มีสัญญาณบวกที่ชัดเจน การชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศที่มีปัญหายังถลำลึกลงไปอีก ดังนั้น เรายังคงกลยุทธ์ที่ปลอดภัยรักษาเงินต้นไว้เป็นสำคัญเพื่อรอโอกาสที่ดีในการกลับเข้าไปลงทุนกองทุนสินทรัพย์เสี่ยงที่เราแนะนำอีกครั้ง โดยพักเงินไว้ในกองทุนตลาดเงิน PCASH ของ บลจ.ฟิลลิป และ SCBTMF ของ บลจ.ไทยพาณิชย์เป็นหลัก ขณะที่เราลดน้ำหนักลงเล็กน้อยในการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ทำให้ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น
“เรายังคงกลยุทธ์เดิม คือรอดูสถานการณ์ (Wait and See) ต่อไป และจะรอเก็บสะสมกองทุนตลาดเกิดใหม่ กองทุนทองคำ และ LTF/RMF เมื่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับลดลง โดยยังคงมุมมองครึ่งปีหลังมีโอกาสผันผวนสูง แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะดูดีขึ้น แต่นั่นหมายถึงโอกาสที่จะได้เห็น QE3 ก็ลดลงด้วยเช่นกัน ขณะที่สัญญาณบวกจากทางฝั่งยุโรปยังไม่ชัดเจน เศรษฐกิจยังคงชะลอตัวรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่มีปัญหา กรีซ สเปน และอิตาลี”นายสานุพงศ์กล่าว
