xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยปันผล 3 กองหุ้น เชื่อฝรั่งแห่ลงทุนเอเชีย-ไทยเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กสิกรไทยคาดหุ้นไทยปลายปีอยู่ในกรอบ 1,250-1,300 จุด รับเงินทุนต่างชาติโยกหนีวิกฤตยูโรเข้าลงทุนในเอเชีย-ไทย ล่าสุดเตรียมปันผล 3 กองทุนหุ้นพร้อมกัน 14 สิงหาคมนี้ สุดปลื้ม "K-VALUE" ผลงานแจ่ม ตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทนสูงถึง 22.57%

นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า มุมมองของบริษัทต่อตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังคงเชื่อว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปลายปี 2555 จะอยู่ในกรอบ1,250-1,300 จุด ถึงแม้จะมีการปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากแล้วก็ตาม โดยส่วนหนึ่งน่าจะมาจากราคาหุ้น (P/E Ratio) ที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าตลาดอื่นในภูมิภาคเดียวกัน

นอกจากนี้ บริษัทต่างๆ ยังมีการคาดการณ์กำไรสูง จึงมีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะเติบโตได้อีกจากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่คาดว่าจะยังคงไหลเข้ามาลงทุนในเอเชีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องท่ามกลางวิกฤตหนี้ยุโรปและสถานการณ์ในต่างประเทศที่ยังคงมีความผันผวนค่อนข้างสูง

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้น 3 กองทุนในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2555

สำหรับกองทุนหุ้นทั้ง 3 กอง ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล (K-VALUE) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.49 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าว 2 (RKF2) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.75 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าว 4 (RKF4) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.46 บาทต่อหน่วย

นายประเสริฐกล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นที่การจ่ายปันผลครั้งนี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เนื่องจากเมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่ต้นปีซึ่งอยู่ที่ประมาณ 17.15% แล้ว ทั้ง 3 กองทุนยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยกองทุน RKF2 และกองทุน RKF4 มีผลการดำเนินงานอยู่ที่ 18.82% และ 18.90% ตามลำดับ

ขณะที่กองทุน K-VALUE นับเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นที่สุดนั้น ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีสูงถึง 22.57% ในแง่ผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลของกองทุน K-VALUE ที่อัตรา 0.49 บาทต่อหน่วยในครั้งนี้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield ถึง 6.92% มากกว่า Dividend Yield เฉลี่ยตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งอยู่ที่ 3.55% เท่านั้น

นอกจากนี้ หากรวมกับเงินปันผลในงวดเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว จะเห็นได้ว่าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา K-VALUE สามารถจ่ายเงินปันผลได้ถึง 0.77 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาสูงถึง 10.89%

“จุดเด่นของกองทุน K-VALUE อยู่ที่นโยบายการลงทุนซึ่งเน้นหุ้นพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการจ่ายปันผลสูง จึงทำให้กองทุนนี้มีผลการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจและสามารถจ่ายเงินปันผลออกมาให้ผู้ถือหน่วยได้อย่างสม่ำเสมอแม้ในสภาวะที่ตลาดหุ้นไทยเผชิญความผันผวนค่อนข้างมากตลอดช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา และหากพิจารณาถึงปัญหาหนี้ในภูมิภาคยุโรปที่ยังคงกดดันให้ตลาดมีโอกาสปรับตัวลงเป็นระยะด้วยแล้ว การลงทุนในกองทุนหุ้นปันผลอย่าง K-VALUE ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และสามารถช่วยลดความผันผวนจากการลงทุนในตลาดหุ้นลงได้” นายประเสริฐกล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น