xs
xsm
sm
md
lg

ภาพการลงทุนครึ่งปีหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดยคมศร ประกอบผล, AFPTTM
Wealth Manager
บลจ. ทิสโก้ จำกัด

7 เดือนแรกของปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ภาพการลงทุนในช่วงครึ่งปีนั้นแรกเต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอน ตลาดหุ้นทั่วโลกที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรก กลับต้องสะดุดและลดฮวบลงจากความกังวลกับปัญหาหนี้ยุโรปที่ลากยาวต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 และยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลาย ประกอบกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของเอเชีย อย่างประเทศจีน ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หุ้นทั่วโลก สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำและน้ำมัน รวมไปถึงเงินฝากและตราสารหนี้ของประเทศที่มีปัญหา และหนีไปพักเงินในสินทรัพย์ปลอดความเสี่ยงอย่างพันธบัตรสหรัฐฯ และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรปรับตัวลดลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาภาพการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง และเราจะคาดหวังอะไรได้จากภาวะตลาดที่ยังผันผวนเช่นนี้?

1.เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยรายงานล่าสุดของ IMF มีปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP โลกในปีนี้ ลง 0.1% เป็น 3.5% โดยมีปัจจัยถ่วงจากปัญหาหนี้ของกลุ่มยูโรโซน

2.ราคาน้ำมันถูกลง ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลดลง 10% นับตั้งแต่ต้นปี และ 18% นับจากจุดสูงสุดในไตรมาส 1 จากปัญหาความขัดแย้งของอิหร่านกับชาติตะวันตกที่เริ่มผ่อนคลายความร้อนแรงลง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงนี้ จะเป็นการช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคการบริโภคให้สูงขึ้นทางอ้อม เนื่องจากภาคครัวเรือนจะมีเงินเหลือเพื่อการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นนั่นเอง

3.ดอกเบี้ยทั่วโลกลดต่ำลง สืบเนื่องจากราคาน้ำมันและราคาอาหารที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกคลายความกังวลเรื่องปัจจัยเงินเฟ้อ และหันมาลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ก็อย่างเช่น จีน เกาหลี อินโดนีเซีย บราซิล และออสเตรเลีย ดอกเบี้ยที่ต่ำลงนี้จะช่วยกระตุ้นการลงทุนและการซื้อสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ๆ ที่ต้องใช้เงินกู้ เช่น บ้านและรถยนต์ เป็นต้น

4.มาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้ของกลุ่มยูโรเริ่มชัดเจนขึ้น หลังจากต้องลุ้นกันอย่างใจหายใจคว่ำกับการตั้งรัฐบาลของกรีซ และการที่ดอกเบี้ยพันธบัตรของสเปนพุ่งสูงทะลุ 7% กลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป ก็ได้เริ่มประกาศมาตรการต่างๆ ออกมา เพื่อลดความกังวลของตลาด เริ่มตั้งแต่ผลการประชุม Euro Summit ที่มีมติเห็นชอบแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป และการใช้เงินกองทุนช่วยเหลือเพื่อเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยุโรปได้โดยตรง และการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของประธาน ECB ที่กล่าวว่าจะทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องเงินสกุลยูโร ก็น่าจะช่วยให้ตลาดกลับมามีความมั่นใจมากขึ้นได้

เรามองว่าภาพการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก ได้ถูกสะท้อนมายังราคาหุ้นในปัจจุบันแล้ว และปัจจัยบวกอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมันอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ลดต่ำลง และมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้ของกลุ่มยูโรที่เริ่มชัดเจนขึ้น จะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความมั่นใจของนักลงทุนได้ในช่วงครึ่งหลังของปี ประกอบกับเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะไหลเข้าพันธบัตรสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 2 น่าจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นอีกครั้งเมื่อนักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้เรายังเชื่อว่าหุ้นน่าจะกลับมาสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงครึ่งหลังของปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น