หุ้นไทยผันผวนจัดก่อนช่วงท้ายรีบาวด์กลับขึ้นมาปิดบวกเล็กน้อย 2 จุด “จรัมพร” ชี้นักลงทุนกังวลหนี้ยุโรป หอบเงินหนีโยกเข้าพันธบัตรสหรัฐฯที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า คาดครึ่งปีหลังดีขึ้น จากการแก้ไขปัญหามีความชัดเจน ดันเม็ดเงินไหลกลับเข้าตลาดหุ้นเอเชียและไทย โบรกเกอร์หวั่นการเมืองรุนแรง ด้าน “เอเชีย เอวิเอชั่น” ผู้ถือหุ้นใหญ่ไทยแอร์เอเชีย รับชะตากรรมมรสุมปัจจัยลบกระหน่ำ หุ้นทะยานขึ้นได้ไม่สูง ระดับเพดานบินต่ำ ได้แค่ใกล้เคียงไอพีโอ ก่อนปิดตลาดด้วยราคาเท่าเดิม
ตลาดหุ้นไทยวานนี้(31พ.ค.) ผันผวนจัดช่วงเช้าปรับตัวในแดนลบ ก่อนรีบาวด์กลับขึ้นมาปิดบวกได้เล็กน้อย โดยปิดที่ระดับ 1,141.50 จุด เพิ่มขึ้น 2.87 จุด หรือ 0.25% มูลค่าการซื้อขาย 46,307 ล้านบาท นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง เนื่องจาก นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ในกลุ่มประเทศยุโรป โดยเฉพาะปัญหาในกรีซ ทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงการลงทุนในหุ้น นำไปลงทุนในตลาดพันธบัตรสหรัฐที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อการแก้ปัญหายุโรปมีความชัดเจน ก็คาดว่านักลงทุนจะเข้ามาในตลาดหุ้นเอเชียและไทยที่มีพื้นฐานที่ดี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นครึ่งหลังของปีนี้
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงมาจากนักลงทุนต่างประเทศมีการดึงเงินกลับ จากมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้วิกฤตยุโรป เพื่อรอประเมินสถานการณ์ โดยหากกรีซมีการออกจากกลุ่มยุโรปนั้นเชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศจะมีการไหลออกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองในประเทศนั้นเริ่มมีน้ำหนักต่อการลงทุนแล้ว ซึ่งจะต้องติดตามว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ปัจจัยลบแวดล้อมทั้งในและนอกประเทศยังเหมือนเดิม เรื่องยูโรโซนยิ่งแย่ลง ล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้นของทั้งสเปนและอิตาลียิ่งเพิ่มความวิตกในตลาดการเงิน ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ความขัดแย้งเรื่องพ.ร.บ.ปรองดองฯ สถานการณ์เป็นเชิงลบ โดยแนวโน้มวันนี้(1มิ.ย.) ต้องติดตามดูเป็นรายวัน โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ หากเกิดการเผชิญหน้ากัน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นลบ ทำให้ตลาดยังมีความเสี่ยงสูง กลยุทธ์ช่วงนี้หากจะเทรดระยะสั้นก็ควรเข้าซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและมี story และหากราคาหุ้นดีดตัวขึ้นก็ให้ขายทำกำไรอย่างรวดเร็ว
**AAVมรสุมกระหน่ำทำได้แค่เสมอตัว
อย่างไรก็ตามวานนี้ หุ้นของบมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ได้เข้าทำการซื้อขายบนกระดานหลักทรัพย์เป็ฯครั้ง โดยเปิดตลาดปรับขึ้นแตะ 4.00 บาท เพิ่มขึ้น0.30 บาท ก่อนปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.80 - 3.74 บาทก่อนกลับมาปิดตลาดเท่ากับราคาไอพีโอที่ 3.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,435.49 ล้านบาท
นายทัศพล แบแลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียเอวิเอชั่น (AAV) กล่าวว่าภาพรวมการซื้อขายวานนี้เป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวผันผวนจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรเชื่อว่าเมื่อราคาอยู่ในระดับนี้นักลงทุนคงเข้าใจ และลงทุนในหุ้นของบริษัทแบบระยะยาวเพราะเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี ส่วนนักลงทุนสถาบันที่คิดรวมเป็นสัดส่วน80%ของหุ้นไอพีโอ ยืนยันว่าเป็นการลงทุนระยะยาวทั้งสิ้น สำหรับปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มองว่าไม่น่ามีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อประเทศไทย
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ธนชาต จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน AAV กล่าวว่า ราคาหุ้นAAVวานนี้อยู่ในระดับที่ดีหากเทียบจากจากภาวะตลาดหุ้นไทยนั้นปรับตัวลดลงแรง ตั้งแต่เปิดตลาดซื้อขาย โดยเชื่อว่าเกิดจากนักลงทุนมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในบริษัทจากในช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นนั้นไม่สามารถจองได้ ส่วนการที่ราคาหุ้นของAAVมีการทยอยปรับตัวลดลงนั้น หากปิดตลาดแล้วราคาหุ้นมีปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจองนั้น ก็ต้องเข้าใจว่าจากภาวะตลาดหุ้นไม่ดี แต่ถือว่าเป็นโอกาสของนักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุน ส่วนนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นได้นั้นสามารถถือลงทุนในระยะยาวได้ ก็จะให้ผลตอบแทนที่ดี จากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้วบริษัทมีฐานะการเงินแข่ง และบริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรปีละ 20% ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี