โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง
• ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการของการเลือกตั้งของกรีซที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่าพรรคนิวเดโมเครซีซึ่งมีนโยบายสนับสนุนมาตรการรรัดเข็มขัดได้รับชัยชนะด้วยคะแนน 29.66% เหนือคู่แข่งที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการรัดเข็มขัดอย่างพรรค Syriza ที่ได้คะแนนไป 26.89%
แอนโทนิส แซมมาราส หัวหน้าพรรคนิวเดโมเครซี กล่าวว่า วันนี้ชาวกรีซเลือกแล้วที่จะเดินอยู่บนเส้นทางของยุโรปและยูโรโซน สถานะของกรีซในยุโรปจะไม่เป็นที่กังขาอีกต่อไป
• Fitch Ratings ระบุว่า ชัยชนะของพรรคนิวเดโมเครซีในการเลือกตั้งของกรีซได้ช่วยขจัดความเสี่ยงระยะกลางที่ฟิทช์จะปรับลดอันดับเครดิตสมาชิกยูโรโซนประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม วิกฤตในกรีซและยูโรโซนยังคงอยู่ในภาวะรุนแรง ซึ่งการรัดเข็มขัดเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณและการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
• รัฐมนตรีคลังยูโรโซนออกแถลงการณ์ว่า ยูโรโซนพร้อมที่จะช่วยเหลือกรีซในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า การปฏิรูปด้านการคลังและโครงสร้างอย่างต่อเนื่องเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับกรีซในการรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยผู้แทนของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ธ.กลางยุโรป (ECB) และ IMF หรือทรอยกา จะเดินทางไปยังกรีซเพื่อหารือประเด็นเงินกู้ฉุกเฉิน ทันทีที่กรีซเสร็จสิ้นการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
• มุมมองของ CEO บลจ.บัวหลวง ต่อสถานการณ์ในยุโรปล่าสุด : แม้ว่าผลการเลือกตั้งกรีซ การประชุม G20 ที่เม็กซิโก และข่าวเรื่อง FED อาจจะออก QE3 ในสัปดาห์นี้ตามที่ Goldman Sach และ SocGen คาด จะเป็นข่าวเชิงบวกต่อการลงทุน แต่ผู้ลงทุนควรตระหนักว่าปัญหาที่แท้จริงของยุโรปยังไม่ได้รับการแก้ไข
• ดิมิทริส บูคูรัส นักจิตวิทยากรีซ เปิดเผยว่า กรีซติดอันดับประเทศที่มีการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่ที่กรีซต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจมีชาวกรีกฆ่าตัวตายแล้วกว่า 2,500 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยากจน และผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไป เนื่องมาจากไม่สามารถปรับตัวรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและมาตรการรัดเข็มขัดได้
• ธ.กลางสเปนเปิดเผยว่า ในเดือน เม.ย. สัดส่วนหนี้เสียของภาคธนาคาร (NPL) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.72% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด หรือเท่ากับ 1.53 แสนล้านยูโร สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2537 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์เมื่อ 4 ปีก่อน
สัปดาห์นี้จะมีรายงานผลการตรวจสอบบัญชี ธ.พาณิชย์ในเบื้องต้นของทีมผู้ตรวจสอบอิสระ ซึ่งจะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ว่าสเปนจะต้องการเงินจากกองทุนช่วยเหลือของสหภาพยุโรปเป็นจำนวนเท่าไร
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 7% ทำให้มีความกังวลมากขึ้นว่าสเปนอาจจำเป็นต้องรับความช่วยเหลือทางการเงินเช่นเดียวกับกรีซ โปรตุเกส และไอร์แลนด์
• พรรคสังคมนิยมของ ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ปธน.ฝรั่งเศส ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งรอบ 2 ของสมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสด้วยเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จ 314 จากทั้งหมด 577 ที่นั่ง ส่งผลให้ออลลองด์สามารถผลักดันมาตรการเพิ่มภาษี (คนรวย) เพิ่มการสร้างงาน รวมถึงใช้นโยบายงบประมาณเกินดุลไปจนถึงปี 2017 ได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากพรรคอื่น
• SocGen คาดว่าจะมีการประกาศ QE3 6 แสนล้านดอลลาร์ในการประชุม FOMC ที่จะมีขึ้นกลางสัปดาห์นี้ จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง
• หู จิ่นเทา ปธน.จีน แสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นนโยบายการคลังเชิงรุกและนโยบายการเงินที่รอบคอบ และจีนจะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวอีกด้วย
• HSBC คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในปีนี้อาจชะลอลงสู่ระดับ 2.9% ซึ่งทำให้เป็นไปได้ที่จีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ยังคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ ธ.กลางจีนจะลดสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 4 ครั้ง พร้อมทั้งลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหนึ่งครั้ง ทำให้การขยายตัวของ GDP จีนมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.5% ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
• จีนส่ง หลิว หยาง นักบินหญิงคนแรกของโลกออกเดินทางไปกับยานอวกาศเสินโจว 9 ซึ่งหากสำเร็จก็อาจทำให้จีนมีสถานีอวกาศเป็นของตนเองภายในปี 2020 ได้ตามเป้าหมาย
• ธ.กลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้นปานกลางจากแรงหนุนของอุปสงค์ด้านการฟื้นฟูประเทศหลังเหตุการณ์ภัยพิบัติในปีที่แล้ว อีกทั้งการส่งออกก็ส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากอุปสงค์รถยนต์ที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ ทำให้คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 2% ซึ่งอยู่ในระดับดีกว่าประเทศส่วนใหญ่ในกลุ่ม G7
• ธ.กลางอินเดียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 8.0% พร้อมกับคงอัตราส่วน กันสำรองเงินสดไว้ที่ 4.75% แม้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากมีความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูง ซึ่งอาจเป็นผลเสียต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว
• Fitch ratings ปรับลดมุมมองความน่าเชื่อถือของอินเดียเป็น “เชิงลบ” แต่ยังคงยืนอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ BBB- โดยแสดงความเห็นว่าหากรัฐบาลไม่เร่งปรับปรุงในเชิงโครงสร้างและทำการส่งเสริมการลงทุน อาจส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของอินเดียในระยะกลางถึงยาวได้
• บริษัทไนท์แฟรงค์ ผู้ให้คำปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยผลสำรวจว่า อินโดนีเซียเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีผลประกอบการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่ง เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในอินโดนีเซียพุ่งสูงขึ้น 3.4% เมื่อเทียบรายปี และ 0.8% เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ และการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง
• BOI เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 2.05 แสนล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจสูงสุดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุดอันดับแรกยังเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น ตามมาด้วยเนเธอร์แลนด์ และมาเลเซีย
• ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ผอ.สถาบันวิจัยนโยบายการคลัง ระบุว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 5.5% ในปีนี้ แต่หากปัญหาเศรษฐกิจยุโรปลุกลามจนทำให้เศรษฐกิจยุโรปติดลบถึง 5% จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้เพียง 2.2% เท่านั้น
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,163.41 จุด ลดลง 2.32 จุด หรือ -0.2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26,424.35 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,236.90 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบรับกับข่าวการเลือกตั้งของประเทศกรีซที่พรรคการเมืองฝ่ายสนับสนุนนโยบายรัดเข็มขัดเป็นฝ่ายชนะ อย่างไรก็ตาม มีแรงขายออกมาในช่วงบ่ายทำให้ดัชนีปรับตัวลดลง สำหรับประเด็นที่ควรติดตามในวันนี้ได้แก่ ความคืบหน้าผลการประชุม G20
• ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายงานว่า อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ของตลาดหุ้นไทยในเดือน พ.ค.55 อยู่ที่ 3.73% เพิ่มขึ้นจาก 3.57% ณ ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และ 3.38% ณ สิ้นเดือนเมษายน 2555
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงจากวันศุกร์ที่ผ่านมา สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท.อายุ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน วงเงินรวม 68,000 ล้านบาท
• ธปท.ระบุว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการพิเศษเพิ่มเติมเพื่อรองรับปัญหาของยุโรป เนื่องด้วยระบบสถาบันการเงินไทยมีเสถียรภาพดี มีปัจจัยพื้นฐานที่เข้มแข็งเพียงพอต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เพียงแต่จำเป็นต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
