คอลัมน์ Good Morning News วันที่ 16 พฤษภาคม 2555
โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง
เศรษฐกิจโลก
• เศรษฐกิจของยูโรโซนในไตรมาส 1/55 ขยายตัว 0% เมื่อเทียบทั้งรายไตรมาสและรายปี ซึ่งข้อมูลของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันไป โดย GDP ของเยอรมนีขยายตัวดีกว่าคาดที่ 0.5% จากไตรมาส 4/54 เพราะได้แรงหนุนจากยอดส่งออกที่เติบโตแข็งแกร่ง ในขณะที่ของฝรั่งเศสไม่ขยายตัวเลยในไตรมาส 1/55 ส่วนของอิตาลียังลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน โดยหดตัวลง 0.8% จากไตรมาสก่อนและร่วงลง 1.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/54
• การเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ของกรีซล้มเหลวและจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนที่กรีซจะไม่เหลือเงินเลยภายในต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าชาวกรีซส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งอีก แต่ยังต้องการเป็นสมาชิกในกลุ่มยูโรโซนต่อไป
• สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยในเดือนพฤษภาคมเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 29 จุด เพิ่มขึ้นจาก 24 จุดในเดือนเมษายน แต่ยังต่ำกว่า 50 จุดอยู่มาก แสดงว่าผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังมีมุมมองที่เป็นลบต่อตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ ดัชนีต่ำกว่า 50 จุดต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี 2549 แล้ว
• ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้าในอัตราที่ชะลอลงหลังจากปรับขึ้น 0.7% ในเดือนมีนาคม แต่ฟื้นตัวขึ้น 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมีเหตุจากเสื้อผ้าและวัสดุก่อสร้างมียอดขายลดลง ซึ่งการที่ตลาดแรงงานชะลอลงอาจทำให้คนลังเลที่จะใช้จ่ายมากขึ้น
• ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เดือนเมษายนทรงตัวจากเดือนก่อน โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.3% ลดลงจาก 2.7% ในเดือนมีนาคม เนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลดลง
• University of Michigan รายงานว่า จำนวนครอบครัวที่ไร้เงินออมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 18.5% ในปี 2009 เป็น 23.4% ในปี 2011
• American Community Survey รายงานผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างครอบครัวอเมริกัน 3 ล้านครัวเรือน พบว่าจำนวนคนต่างชาติที่เกิดในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นคนอเมริกันเพิ่มขึ้นจาก 31 ล้านคนในปี 2000 เป็น 40 ล้านคนในปี 2010
เศรษฐกิจเอเชีย
• นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดว่าธนาคารกลางจีนจะลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้เพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินเชื่อมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาได้ลดสัดส่วนการสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) มาโดยตลอดแต่ไม่สามารถกระตุ้นความต้องการสินเชื่อได้
นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงยังทำให้กำไรของภาคเอกชนลดจนส่งผลกระทบต่อความต้องการสินเชื่อโดยเฉพาะในกลุ่ม SME ที่ยังมีอุปสรรคในการเข้าถึงสินเชื่อ
• การลงทุนโดยตรงของต่างชาติ (FDI) ของจีนในเดือนเมษายนลดลง 0.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 8.4 พันล้านดอลลาร์ ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปทำให้เม็ดเงินลงทุนจากกลุ่มสหภาพยุโรปใน 4 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 27.9% แต่การลงทุนจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่นยังคงเพิ่มขึ้น
• สศค.รายงานว่า สินค้าที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนนี้ส่วนใหญ่ยังมีราคาต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อของเดือนพฤษภาคม 55 ไม่สูงมากนักอย่างที่หลายฝ่ายกังวลกัน และเป็นการเพิ่มขึ้น/ลดลงตามช่วงฤดูกาล
แต่ประเด็นที่ต้องติดตามคือราคาอาหารสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายน 54 ซึ่ง สศค.ยังคงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ที่ 3.6%
• รองนายกรัฐมนตรี กิตติรัตน์ ณ ระนอง กล่าวว่า นับจากปีนี้เป็นต้นไปจะปรับการขาดดุลงบประมาณให้น้อยลงทุกปี โดยคาดว่าจะใช้นโยบายสมดุลได้ในปี 59 และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ที่รัฐบาลจะเสนอสภาฯ ในวันที่ 21-23 พฤษภาคมนี้จะมีกรอบวงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท โดยขาดดุล 3 แสนล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าปีงบประมาณ 2555 ที่ขาดดุล 4 แสนล้านบาทเพราะมีค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันอุทกภัย
• ก.พาณิชย์รายงานว่า ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคกว่า 200 รายที่เป็นผู้ผลิตสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันอันครอบคลุมตลาดกว่า 90% ยินดีให้ความร่วมมือตรึงราคาขายไป 4 เดือน (มิ.ย.-ก.ย.) หลังจากนั้นจะหารือกันอีกครั้งหากต้นทุนสินค้ายังมีแนวโน้มราคาขึ้น
• ก.ล.ต.เห็นชอบให้ออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดตั้งและจัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือรีตส์ (Real Estate Investment Trusts : REITs) ตามรูปแบบที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเรื่องการระดมทุนและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยระบุว่ามีความยืดหยุ่นในการลงทุนมากกว่ากองทุนรวมอสังหาฯ ในปัจจุบัน เช่น
1. เปิดให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนและบริหารอสังหาริมทรัพย์เข้ามาจัดตั้งและจัดการทรัพย์สินได้
2. ไม่จำกัดประเภททรัพย์สินที่ลงทุนและลงทุนในทรัพย์สินต่างประเทศได้
3. กู้เงินไปลงทุนหรือซ่อมแซมทรัพย์สินได้คล่องตัวกว่า โดยกู้ได้ตั้งแต่ 35-60% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ แล้วแต่ระดับความน่าเชื่อถือ
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,184.55 จุด เพิ่มขึ้น 19.04 จุด หรือ +1.63% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 28,522 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเพียง 177 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคแม้ว่าจะไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา โดยหุ้นที่นำการปรับขึ้นของตลาดส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากในวันก่อนหน้า
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.01 ถึง 0.02% และวันนี้จะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และ 50 ปี มูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท
