xs
xsm
sm
md
lg

แนะลงทุนยาวยังต้องระวัง กูรูชี้มีโอกาสผันผวนรุนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-นักวิเคราะห์กองทุนรวม ประเมินธนาคารกลางสหรัฐฯจะยังไม่ใช้มาตรการ QE 3 กระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ว่าตลาดคาดหวังให้มีมาตรการดังกล่าว พร้อมแนะนำนักลงทุนระยะยาว ยังต้องระมัดระวัง แนะนำ “Wait and See”ตามเดิม เงินลงทุนใหม่พักไว้ใน PCASH

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund Super Mart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยบวกจากทางฝั่งยุโรปเริ่มหมดลง เมื่อกรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ ตลาดได้ตอบรับข่าวดังกล่าวไปแล้ว รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวขึ้นดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์กันไว้ แต่สถานการณ์ยังไม่มีปัจจัยลบที่ชัดเจน และสร้างความตื่นตกใจให้ตลาดได้ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระยะสั้นเรามองว่า ราคาสินทรัพย์เสี่ยงจะยังคงแกว่งขึ้นได้แต่อาจจะไม่มากนัก จนกว่าจะมีปัจจัยบวกใหม่ๆ การลงทุนระยะสั้นคงต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น และในสัปดาห์นี้เราคงต้องจับตาการประชุม FED ว่าจะส่งสัญญาณมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีกว่าที่คาดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เราเชื่อว่ามาตรการ QE3 อาจยังไม่จำเป็นในตอนนี้ หรือถ้าออกมาก็จะมีปริมาณที่น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ อาจส่งผลให้ดอลล่าร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง และราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะทองคำ และค่าเงินในตลาดเกิดใหม่อาจปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ ความเสี่ยงจากกรีซและยุโรปยังไม่หมดไปซะทีเดียวปัญหาที่ต้องจับตามองคือ การถดถอยของเศรษฐกิจกรีซและยุโรปอาจรุนแรงกว่าที่คาด การเมืองของกรีซเองยังไม่ชัดเจนจนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จในช่วง เม.ย. - พ.ค. 55 ทำให้ความไม่แน่นอนในการเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซนยังคงมีอยู่ การลงทุนระยะยาวเราจึงยังคงมองว่ายังมีโอกาสที่ตลาดจะผันผวนรุนแรงได้ ทำให้เรายังคงคำแนะนำ “Wait and See” ต่อไป พร้อมพักเงินลงทุนใหม่ๆ ที่จะนำมาลงทุนในกองทุนตลาดเงิน PCASH ของ บลจ. ฟิลลิป ที่เป็นกองทุนตลาดเงินที่เราแนะนำมาอย่างต่อเนื่องสำหรับนักลงทุนที่ได้เก็งกำไรในกองทุนน้ำมันยังคงแนะนำเก็งกำไรเหมือนเดิม ปัจจัยความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะยังคงทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงได้ยาก แม้ว่าค่าเงินดอลล่าร์จะแข็งค่าขึ้นก็ตาม แต่เรายังคงต้องระมัดระวังการเปลี่ยนแปลงมีขึ้นได้ทุกเมื่อกองทุนน้ำมันที่แนะนำยังคงเป็น K-OIL ของ บลจ. กสิกรไทย ตามเดิม

ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดรับข่าวดีกรีซไปแล้ว และกำลังมองหาปัจจัยใหม่ๆ ทำให้ตลาดหุ้นยังคงอ่อนไหวโดยกลางสัปดาห์ หลังจากที่จีนปรับเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจของตัวเองลงเหลือ7.5% ทำให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ดิ่งลงแรง ด้วยความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง เมื่อข่าวดีจากการจ้างงานในสหรัฐที่ดีกว่าคาด หนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยการจ้างงานภาคเอกชนในเดือน ก.พ. 55 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่ง เช่นเดียวกับการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานที่ 8.3% ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำสุด ตั้งแต่หลังเกิดวิกฤตการเงิน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทั้งสัปดาห์ทรงตัวถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อย

ส่วนตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ทำให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงอย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกจากยุโรป และการที่ค่าเงินเยนกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งเป็นตัวหนุนดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น ปิดที่ 9,929.74 จุด (+1.56%WoW) ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเองต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไรระยะสั้นเป็นระยะ ทำให้SET ปรับตัวลดลง ปิดที่ 1,158.71 (-0.55% WoW) และยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรจากต่างชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้ว่าสัปดาห์ทีผ่านมา ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยก็ตาม

สำหรับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น กดดันราคาทองคำผันผวนและลงไปทดสอบระดับ 1,660 US$/oz. ก่อนที่ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของ FED ที่จะมีการประชุมกันในกลางสัปดาห์นี้ ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวกลับขึ้นมาปิดเหนือ 1,700 US$/oz. ได้สำเร็จ ขณะที่ราคาน้ำมัน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความผันผวนจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ แต่ปัญหาด้านอุปทานยังคงทำให้ราคาน้ำมันรักษาระดับไว้ได้ ปิดตลาดวันศุกร์ราคาน้ำมันอยู่ที่ 107.40 US$/bbl. (+0.66% WoW)ภาวะตลาดประจำสัปดาห์
กำลังโหลดความคิดเห็น