ASTVผู้จัดการรายวัน-โบรกเกอร์กองทุนรวม มองระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกหลังได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่กรีซและปรัญหาหนี้ยุโรปยังต้องติดตามต่อแม้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น แนะนักลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวเริ่มทยอยขายเกร็งกำไรระยะสั้นแต่ต้องระวังความเสี่ยง พร้อมชูกองทุนทองคำTGlodbullion-H ของบลจ.ธนชาต น่าลงทุน
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ระยะสั้นภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐดูจะมีความมั่นคงมากขึ้น ประกอบกับการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซยังดำเนินไปในทิศทางที่ทำให้ตลาดมีความหวังว่ากรีซจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มสูงขึ้นมากเท่านั้น
โดยเรายังคงต้องจับตามองความเสี่ยงการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป นอกจากนี้ยังต้องจับตากรีซยอมรับข้อตกลงการปฏิรูปเพื่อขอรับมาตรการช่วยเหลือรอบ 2 ซึ่งจะสามารถช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในกลางเดือนมีนาคม รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัวลงจากผลกระทบปัญหาหนี้ยุโรป รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังเปราะบาง
ส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ สำหรับนักลงทุนระยะกลาง - ยาวยังคงต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง เรายังคงคำแนะนำต่อเนื่องโดยให้เริ่มพิจารณาค่อยๆ ทยอยขายทำกำไรกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงบางส่วนออกไป และสำหรับเงินใหม่ที่จะนำมาลงทุน แนะนำให้พักการลงทุนไว้ก่อนในกองทุนตลาดเงิน หรือ Lock-in Funds โดยเราแนะนำกองทุนตลาดเงินPCASH ของ บลจ. ฟิลลิป ในการพักเงิน และรอจังหวะกลับเข้าไปสะสมใหม่อีกครั้งเมื่อราคาปรับตัวลดลงแล้วจะดีกว่า กองทุนที่แนะนำสำหรับสะสมลงทุนระยะยาวยังเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตลาดเกิดใหม่เป็นหลักอย่าง ABAPAC (Aberdeen Asia Pacific ex Japan)และ T-Global Bond ของ บลจ. ธนชาต และกองทุนทองคำ TGlodbullion-H ของ ธนชาต ต่อไปตามเดิม
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะออกมาต่ำกว่าคาดแต่ในสัปดาห์นี้ ตลาดแรงงานยังส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงอีก 12,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 ราย และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น257,000 ตำแหน่ง ดีกว่าที่คาดการณ์กันไว้มาก ทำให้อัตราการว่างงานของสหรัฐลดลงเหลือ 8.3% ลดลงอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ 8.5%
ขณะที่ปัญหาหนี้กรีซตลาดมีความหวังมากขึ้น กับการเจรจาระหว่างกรีซ และเจ้าหนี้เอกชนใกล้ได้ข้อสรุปก่อนกลางเดือนกุมภาพันธ์ และกรีซจะสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ ขณะที่การประมูลพันธบัตรของประเทศสมาชิกในยูโรโซนยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนแม้ว่าจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงก็ตามทำให้ระยะสั้นยุโรปเริ่มดูดีขึ้นกว่าช่วงปลายปีที่แล้ว
นอกจากนี้ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐปรับตัวดีขึ้นเกินคาด ทำให้มุมมองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีทิศทางที่ดีขึ้น จนมีการคาดการณ์ว่า FED อาจไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการ QE เพิ่มเติม และค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ทำให้นักลงทุนผิดหวังกับคาดการณ์ดังกล่าว ราคาทองคำปิดวันศุกร์ที่ 1,724.44 US$/oz. (-0.80%WoW) หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดของสัปดาห์ที่ 1,762.90 US$/oz. ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง -1.73% WoW ปิดที่ 97.84 US$/bbl. จากสต๊อกน้ำมันดิบที่มากเกินคาดแต่เรายังคงต้องจับตาความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกต่อไป
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ระยะสั้นภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐดูจะมีความมั่นคงมากขึ้น ประกอบกับการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซยังดำเนินไปในทิศทางที่ทำให้ตลาดมีความหวังว่ากรีซจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มสูงขึ้นมากเท่านั้น
โดยเรายังคงต้องจับตามองความเสี่ยงการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป นอกจากนี้ยังต้องจับตากรีซยอมรับข้อตกลงการปฏิรูปเพื่อขอรับมาตรการช่วยเหลือรอบ 2 ซึ่งจะสามารถช่วยให้กรีซหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในกลางเดือนมีนาคม รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัวลงจากผลกระทบปัญหาหนี้ยุโรป รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังเปราะบาง
ส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ สำหรับนักลงทุนระยะกลาง - ยาวยังคงต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง เรายังคงคำแนะนำต่อเนื่องโดยให้เริ่มพิจารณาค่อยๆ ทยอยขายทำกำไรกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงบางส่วนออกไป และสำหรับเงินใหม่ที่จะนำมาลงทุน แนะนำให้พักการลงทุนไว้ก่อนในกองทุนตลาดเงิน หรือ Lock-in Funds โดยเราแนะนำกองทุนตลาดเงินPCASH ของ บลจ. ฟิลลิป ในการพักเงิน และรอจังหวะกลับเข้าไปสะสมใหม่อีกครั้งเมื่อราคาปรับตัวลดลงแล้วจะดีกว่า กองทุนที่แนะนำสำหรับสะสมลงทุนระยะยาวยังเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตลาดเกิดใหม่เป็นหลักอย่าง ABAPAC (Aberdeen Asia Pacific ex Japan)และ T-Global Bond ของ บลจ. ธนชาต และกองทุนทองคำ TGlodbullion-H ของ ธนชาต ต่อไปตามเดิม
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะออกมาต่ำกว่าคาดแต่ในสัปดาห์นี้ ตลาดแรงงานยังส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงอีก 12,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 ราย และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น257,000 ตำแหน่ง ดีกว่าที่คาดการณ์กันไว้มาก ทำให้อัตราการว่างงานของสหรัฐลดลงเหลือ 8.3% ลดลงอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ 8.5%
ขณะที่ปัญหาหนี้กรีซตลาดมีความหวังมากขึ้น กับการเจรจาระหว่างกรีซ และเจ้าหนี้เอกชนใกล้ได้ข้อสรุปก่อนกลางเดือนกุมภาพันธ์ และกรีซจะสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ ขณะที่การประมูลพันธบัตรของประเทศสมาชิกในยูโรโซนยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนแม้ว่าจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงก็ตามทำให้ระยะสั้นยุโรปเริ่มดูดีขึ้นกว่าช่วงปลายปีที่แล้ว
นอกจากนี้ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐปรับตัวดีขึ้นเกินคาด ทำให้มุมมองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีทิศทางที่ดีขึ้น จนมีการคาดการณ์ว่า FED อาจไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการ QE เพิ่มเติม และค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ทำให้นักลงทุนผิดหวังกับคาดการณ์ดังกล่าว ราคาทองคำปิดวันศุกร์ที่ 1,724.44 US$/oz. (-0.80%WoW) หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดของสัปดาห์ที่ 1,762.90 US$/oz. ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง -1.73% WoW ปิดที่ 97.84 US$/bbl. จากสต๊อกน้ำมันดิบที่มากเกินคาดแต่เรายังคงต้องจับตาความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกต่อไป