xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาหนี้ยุโรปยังป่วนหุ้นทั่วโลก กูรูแนะถือเงินสด-มันนี่มาร์เก็ตเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักวิเคราะห์กองทุนรวม ประเมินปัญหาหนี้สาธารณะยุโรป การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เปราะบาง และการชะลอตัวเศรษฐกิจของจีน ยังปันป่วนหุ้นทั่วโลก แนะถือเงินสดหรือมันนี่มาร์เก็ตเพิ่ม รอปัจจัยลบชัดเจนแล้วทยอยลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund Super Mart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ได้ทำให้นักลงทุนผิดหวัง โดยเฉพาะตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวดีกว่าที่คาด ขณะที่ปัจจัยลบทางฝั่งยุโรปเองยังไม่ได้มีเรื่องน่าตื่นเต้นออกมา และดูเหมือนบรรยากาศจะเริ่มดีขึ้น หลังจากที่ ECB เพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินในยุโรป เพื่อให้สถาบันการเงินนำเงินไปลงทุนพันธบัตรตามที่คาดหวัง ทำให้ผลการประมูลพันธบัตรของ อิตาลี และสเปน ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่ทางฝั่งจีนเองตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวก็จริง แต่เป็นการชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป (Soft Landing) และยังคาดหวังรัฐบาลจีนทำการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมอีกด้วย ทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงในเดือน ม.ค. 55 ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหุ้นตลาดเกิดใหม่

ทั้งนี้หลังจาก FED ขยายเวลาคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0 - 0.25% ต่อไปจนถึงปี 2557 ทำให้แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐอ่อนค่าลง ส่งผลดีกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ โดยราคาทองคำปรับขึ้นผ่านแนวต้านที่ 1,700 US$/oz.ไปแล้ว และระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ก็ได้รับผลดีไปด้วยท่ามกลางตลาดที่ยังไม่มีปัจจัยลบชัดเจน อย่างไรก็ตามเราก็ยังต้องระมัดระวังอยู่ดี ปัญหาหนี้ยุโรปยังต้องผ่านบททดสอบกันอีกหลายครั้ง และเศรษฐกิจโลกที่ต้องเผชิญกับการชะลอตัว ขณะที่ราคาสินทรัพย์เสี่ยงพุ่งขึ้นมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงดูจะไม่คุ้มค่ากับผลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ค่อยๆ ทยอยลดพอร์ตสินทรัพย์เสี่ยงลง และพักการลงทุน รอจังหวะกลับเข้าสะสมจะดีกว่า

อย่างไรก็ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนตลาดเงินค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ แต่หากเรามองในแง่ของความเสี่ยงที่อาจจะต้องเผชิญในอนาคตทั้งจากความเสี่ยงปัญหาหนี้ยุโรป และเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้เราเพิ่มน้ำหนักการถือเงินสด และกองทุนตลาดเงินเพิ่มขึ้น เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมในการกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่กองทุนตราสารหนี้ที่เป็น Lock-in Fund จะเน้นคุณภาพของตราสารหนี้ในพอร์ต มากกว่าอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ การลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาล และหุ้นกู้ในเอเชียตะวันออก และพันธบัตรรัฐบาลไทยจะดีกว่า

นอกจากนี้แม้ว่าระยะสั้นแนวโน้มราคาหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ แต่เราเชื่อว่าความเสี่ยงจากปัญหาหนี้ยุโรปยังคงอยู่ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังน่าเป็นห่วง เมื่อยุโรปมีแนวโน้มถดถอย ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างเปราะบาง รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ทั้งหมดนี้จะกลับมาสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง ดังนั้นเราจึงแนะนำให้พิจารณาทยอยลดพอร์ตการลงทุนหุ้นลง และพักการลงทุนไว้ก่อน ขณะที่กองทุนLTF ในปีนี้ไม่มีกองทุน KSDLTF ให้เราสามารถบริหารความเสี่ยงได้แล้ว เราแนะนำให้ถือ KSDLTF ต่อไปก่อนและหาจังหวะสับเปลี่ยนออกในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงก่อนจะดีกว่า

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำกลับมาปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญไปได้ หลังจากที่ FED คงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% พร้อมขยายเวลาไปจนถึงปี 2557 ทำให้แนวโน้มราคาทองคำกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทองคำยังมีโอกาสผันผวนได้ตามสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ จากปัจจัยหนี้ยุโรปและความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้เรายังคงระดับน้ำหนักทองคำไว้เท่าเดิม ส่วนกองทุนน้ำมันเราแนะนำให้หลีกเลี่ยงอยู่ แม้ว่ามีปัจจัยอุปทานความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่านอยู่ก็ตาม แต่ด้านอุปทานไม่ได้สนับสนุนราคาน้ำมันทำให้การปรับขึ้นมองว่ามีความเสี่ยงอยู่ และระยะสั้นราคาน้ำมันก็ยังไม่ได้แนวโน้มที่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น