ASTVผู้จัดการรายวัน-นักวิเคราะห์กองทุนรวม แนะนักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะยาวโอกาสเก็บสินทรัพย์เสี่ยงมาถึงแล้ว พร้อมแนะนำกลุ่มตลาดเกิดใหม่และเอเชียน่าลงทุนที่สุด หลังยุโรปและสหรัฐฯยังมีปัญหาด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรายังคงย้ำถึงความระมัดระวังในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ เน้นความปลอดภัยมาก่อนผลตอบแทน โดยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มออกมาน่าผิดหวังกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสมาชิกยูโรโซน 9 ประเทศลง เป็นการย้ำให้เห็นถึงความเสี่ยงของปัญหาหนี้ยุโรปที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ทำให้เรายังคาดการณ์ว่าจะได้เห็นความผันผวนของราคาสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากปัญหาหนี้ยุโรปในช่วงต้นปี 2555
โดยเรายังคงแนะนำให้นักลงทุนเน้นความปลอดภัยในการลงทุนไว้เป็นสำคัญ เงินลงทุนใหม่แนะนำลงทุนกองทุนประเภท Money Market Fund เป็นส่วนใหญ่ เพื่อพักรอจังหวะที่ดีก่อนสะสมกองทุนสินทรัพย์เสี่ยง โดยมี PCASH ของ บลจ. ฟิลลิป เป็นกองทุนแนะนำในกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะมองว่าปีนี้มีความผันผวน แต่เราถือว่าสถานการณ์นี้จะเป็นการพลิกวิกฤตใหม่เป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่กำลังรอจังหวะในการเก็บสะสมกองทุนสินทรัพย์เสี่ยงที่มีคุณภาพ โดยเราแนะนำให้เน้นการลงทุนไปยังประเทศที่มีปัญหาน้อยกว่าอย่างกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่เราเชื่อว่าระยะยาวจะฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่า กองทุนที่เราแนะนำยังคงเน้นไปยังกองทุนที่ลงทุนในตลาดเกิดใหม่เป็นหลักอย่างกองทุน ABAPAC (Aberdeen Asia Pacific ex Japan) และ T-Global Bond ของ บลจ. ธนชาต
สำหรับนักลงทุนที่ลงทุน KSDLTF ในตอนนี้ แม้ว่าจะไม่สามารถทำการซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุนนี้ได้แล้วในเดือนหน้า แต่นโยบายการลงทุนที่มีการป้องกันความเสี่ยงกับตลาดหุ้นบางส่วนยังไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น เราแนะนำให้ลงทุน KSDLTF ต่อไปก่อน เพื่อหลีกหนีจากความผันผวนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2555 นี้ และสำหรับนักลงทุนที่จะลงทุน LTF ในปีนี้นั้น แนะนำให้วางแผนกลยุทธการลงทุนแบบDollar Cost Averaging (DCA) ควบคู่กับการจับจังหวะตลาดในปีนี้ โดยกองทุน LTF ที่แนะนำยังคงเป็น KFLTFDIV ของ บลจ. กรุงศรี
อย่างไรก็ตามในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือประเทศสมาชิกยูโรโซน 9 ชาติซึ่งมี ฝรั่งเศส รวมอยู่ในนั้นด้วย โดยทาง S&P ไม่เชื่อว่ามั่นในแผนการแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรปของผู้นำยูโรป และกรีซยังมีโอกาสที่จะผิดนัดชำระหนี้ได้ ขณะที่การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐจะทยอยประกาศผลออกมาอาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน หลัง เจพีมอร์แกน ประกาศผลประกอบการออกมาไม่ดี ทำให้แนวโน้มสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐ คาดว่าจะผันผวนในเชิงลบ
ในส่วนของราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ หลังนักลงทุนให้ความสนใจการประมูลพันธบัตรอิตาลี และสเปน โดยราคาทองคำปิดวันศุกร์ที่ 1,639.52 US$/oz. (+1.43%WoW) อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่แล้วกลับปรับตัวลดลงสวนทางสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ หลังยุโรปเลี่อนการคว่ำบาตรอิหร่านออกไป ช่วยลดความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตก และอิหร่านลง
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรายังคงย้ำถึงความระมัดระวังในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ เน้นความปลอดภัยมาก่อนผลตอบแทน โดยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มออกมาน่าผิดหวังกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสมาชิกยูโรโซน 9 ประเทศลง เป็นการย้ำให้เห็นถึงความเสี่ยงของปัญหาหนี้ยุโรปที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ทำให้เรายังคาดการณ์ว่าจะได้เห็นความผันผวนของราคาสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากปัญหาหนี้ยุโรปในช่วงต้นปี 2555
โดยเรายังคงแนะนำให้นักลงทุนเน้นความปลอดภัยในการลงทุนไว้เป็นสำคัญ เงินลงทุนใหม่แนะนำลงทุนกองทุนประเภท Money Market Fund เป็นส่วนใหญ่ เพื่อพักรอจังหวะที่ดีก่อนสะสมกองทุนสินทรัพย์เสี่ยง โดยมี PCASH ของ บลจ. ฟิลลิป เป็นกองทุนแนะนำในกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะมองว่าปีนี้มีความผันผวน แต่เราถือว่าสถานการณ์นี้จะเป็นการพลิกวิกฤตใหม่เป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่กำลังรอจังหวะในการเก็บสะสมกองทุนสินทรัพย์เสี่ยงที่มีคุณภาพ โดยเราแนะนำให้เน้นการลงทุนไปยังประเทศที่มีปัญหาน้อยกว่าอย่างกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่เราเชื่อว่าระยะยาวจะฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่า กองทุนที่เราแนะนำยังคงเน้นไปยังกองทุนที่ลงทุนในตลาดเกิดใหม่เป็นหลักอย่างกองทุน ABAPAC (Aberdeen Asia Pacific ex Japan) และ T-Global Bond ของ บลจ. ธนชาต
สำหรับนักลงทุนที่ลงทุน KSDLTF ในตอนนี้ แม้ว่าจะไม่สามารถทำการซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุนนี้ได้แล้วในเดือนหน้า แต่นโยบายการลงทุนที่มีการป้องกันความเสี่ยงกับตลาดหุ้นบางส่วนยังไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น เราแนะนำให้ลงทุน KSDLTF ต่อไปก่อน เพื่อหลีกหนีจากความผันผวนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2555 นี้ และสำหรับนักลงทุนที่จะลงทุน LTF ในปีนี้นั้น แนะนำให้วางแผนกลยุทธการลงทุนแบบDollar Cost Averaging (DCA) ควบคู่กับการจับจังหวะตลาดในปีนี้ โดยกองทุน LTF ที่แนะนำยังคงเป็น KFLTFDIV ของ บลจ. กรุงศรี
อย่างไรก็ตามในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือประเทศสมาชิกยูโรโซน 9 ชาติซึ่งมี ฝรั่งเศส รวมอยู่ในนั้นด้วย โดยทาง S&P ไม่เชื่อว่ามั่นในแผนการแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรปของผู้นำยูโรป และกรีซยังมีโอกาสที่จะผิดนัดชำระหนี้ได้ ขณะที่การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐจะทยอยประกาศผลออกมาอาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน หลัง เจพีมอร์แกน ประกาศผลประกอบการออกมาไม่ดี ทำให้แนวโน้มสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐ คาดว่าจะผันผวนในเชิงลบ
ในส่วนของราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ หลังนักลงทุนให้ความสนใจการประมูลพันธบัตรอิตาลี และสเปน โดยราคาทองคำปิดวันศุกร์ที่ 1,639.52 US$/oz. (+1.43%WoW) อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่แล้วกลับปรับตัวลดลงสวนทางสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ หลังยุโรปเลี่อนการคว่ำบาตรอิหร่านออกไป ช่วยลดความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตก และอิหร่านลง