โบรกเกอร์กองทุนรวม คาดปัจจัยบวกจวกทั้งในยุโรปและสหรัฐ ดึงเงินไหลลงทุนตลาดหุ้นเอเชียต่อเนื่อง ส่วนราคาน้ำมันได้อานิสงส์ บวกความตรึงเครียดระหว่างอิหร่านและประเทศตะวันตก ดันราคาน้ำมันวิ่งต่อช่วงระยะสั้น แนะลงทุน "K-OIL" ของ บลจ. กสิกรไทย
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund Super Mart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาแม้ว่าการแก้ปัญหาหนี้กรีซยังยืดเยื้อต่อไป แต่ด้วยความพยายามของกรีซที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะได้รับเงินทุนช่วยเหลือรอบที่ 2 เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และต้องการที่จะอยู่ในกลุ่มประเทศยูโรโซน ทำให้ตลาดยังคงคาดการณ์ไปในทางที่ดีต่อกรีซ (ได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือจากยูโรโซนแล้วในวันที่ 20 ก.พ. ขณะที่จีนเอง ให้ความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนอยู่ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศในสัปดาห์ที่แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีก 13,000 รายมาอยูที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ขณะที่ตลาดบ้านฟื้นตัวดีขึ้นเช่นกัน ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 1.5% สู่ 699,000 ยูนิต มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ เรายังคงคาดว่าแนวโน้มระยะสั้นปัจจัยบวกต่างๆ ยังคงหนุนเงินลงทุนไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยปัจจัยบวกจากทางฝั่งยุโรป และสหรัฐหนุนกระแสเงินทุนไหลเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางฝั่งเอเชีย
สำหรับตลาดหุ้นไทยปัจจัย ภายนอกยังส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง SET Index ปิด 1,129.93 จุด (+1.53% WoW) แนวโน้มระยะสั้นปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน High เดิมบริเวณ 1,148 จุด
ส่วนทิศทางราคาน้ำมัน เรามองว่า นอกจากปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐและแนวโน้มที่ดีของการแก้ปัญหาหนี้กรีซ และที่สำคัญคือ ความกังวลด้านอุปทานในตะวันออกกลางทั้งการหยุดชะงักของการผลิตและส่งออกน้ำมันในเยเมนเมื่อคนงานประท้วงเรื่องค่าแรง และความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและประเทศตะวันตก ทำให้เราคาดว่าราคาน้ำมันมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นต่อ
นายสานุพงศ์กล่าวว่า แนวโน้มปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งจากยูโรโซน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินของจีน ด้วยการลดการกันสำรองฯลง ทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นจีนที่ได้รับข่าวดีในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และสัญญาณทางเทคนิคสนับสนุนการปรับขึ้นของ Hang Seng คาดว่าจะแกว่งตัวขึ้นทดสอบแถว 23,000 จุด กองทุนรวมที่แนะนำสำหรับเก็งกำไรระยะสั้นคือ ASP-HSI ของบลจ. แอซเสท พลัส ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Index Fund นำเงินไปลงทุนใน ETF อ้างอิงดัชนี Hang Seng ในตลาดหุ้นฮ่องกง และมีการปัองกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน (ด้วยวิธี Proxy Hedge โดยกองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนกับ US Dollar แทนที่จะเป็น HK Dollar เนื่องจาก US Dollar และ HK Dollar จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กัน)
นอกจากตลาดหุ้นจีนที่น่าสนใจแล้ว ราคาน้ำมันเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง หลังจากแกว่งตัวแถว 100 US$/bbl. มาพักใหญ่ ล่าสุดราคาน้ำมันพุ่งทะลุระดับแนวต้านที่เรามองไว้ที่ 104 US$/bbl. ทำให้ระยะสั้นเราคาดว่าราคาน้ำมันมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 113 - 115 US$/bbl. สำหรับกองทุนน้ำมันที่แนะนำยังคงเป็นกองทุนน้ำมัน K-OIL ของ บลจ. กสิกรไทย ที่เราเคยแนะนำกันมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้การลงทุนระยะสั้นยังต้องใช้ความระมัดระวัง การเก็งกำไรด้วยเงินลงทุนบางส่วนที่สามารถรับความเสี่ยงได้น่าจะปลอดภัยกว่า ขณะที่คำแนะนำของเราสัปดาห์ที่แล้วได้ให้พิจารณาลดพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไปแล้วบางส่วน สัปดาห์นี้เราแนะนำให้รอดูสถานการณ์ “Wait and See”
โดยแนะนำพักเงินลงทุนใน PCASH ซึ่งเป็นกองทุนตลาดเงินของ บลจ. ฟิลลิป ก่อนหาจังหวะกลับเข้าสะสมกองทุนตลาดเกิดใหม่เพื่อการลงทุนระยะยาวต่อไป เมื่อเห็นราคาสินทรัพย์เสี่ยงมีการปรับตัวลดลงตามที่เราได้เคยแนะนำไว้ก่อนหน้านี้
