โบรกเกอร์กองทุนรวมประเมิน ระยะยาวราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น แม้ระยะสั้นยังมีความผันผวนบ้าง พร้อมแนะโอกาสเก็บทองคำเข้าพอร์ตมาแล้วชูกองทุน "T-Goldbullion-H"ของบลจ.ธนชาต น่าลงทุน
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund Super Mart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์การลงทุนระยะสั้นยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน โดยเรายังไม่เห็นปัจจัยลบที่มีนัยสำคัญที่จะทำให้ตลาดเปลี่ยนมุมมองได้ ขณะที่ปัจจัยบวกยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่องชัดเจน จากตัวเลขตลาดแรงงาน และยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์กันไว้ และแนวโน้มยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปทำให้ระยะสั้นเรายังคงมุมมองที่ดีต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น
อย่างไรก็ตามการที่ดอลล่าร์สหรัฐมีแนวโน้มที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ FED อาจไม่มีความจำเป็นในสถานกาณ์แบบนี้ อาจทำให้ค่าเงินในประเทศตลาดเกิดใหม่มีโอกาสอ่อนค่าลง หรืออาจแข็งค่าได้ไม่มากนัก ลดความน่าสนใจในการลงทุนในประเทศกลุ่มนี้ลงไปบ้าง นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำให้มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อได้อีก แต่เรากลับยังคงเชื่อว่าการลงทุนในทองคำยังน่าสนใจในระยะยาว และเชื่อว่าแนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้น ปัจจัยเสี่ยงยังคงรอเราอยู่ แนะนำให้เริ่มพิจารณาการทยอยสะสมกองทุนทองคำเพิ่ม กองทุนทองคำแนะนำ T-Goldbulllion-H ของ บลจ. ธนชาต
นอกจากนี้ เรายังคงมองว่าการปรับขึ้นของราคาสินทรัพย์เสี่ยงในรอบนี้มีโอกาสที่จะผันผวนได้ทุกเมื่อ หากมีปัจจัยลบเกิดขึ้น ดังนั้น การลงทุนระยะสั้นเรายังคงเน้นย้ำถึงความระมัดระวังในการลงทุน และสำหรับการลงทุนระยะยาวเรายังคงคำแนะนำให้ Wait and See ต่อไปก่อน และสำหรับเงินลงทุนใหม่ยังคงแนะนำชะลอการลงทุนไว้ก่อน โดยพักเงินลงทุนไว้ใน PCASH ซึ่งเป็นกองทุนตลาดเงินของ บลจ. ฟิลลิป ต่อไป และบางส่วนอาจพิจารณาทยอยสะสมกองทุนทองคำเพิ่ม สำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรกองทุนน้ำมันเรายังคงแนะนำให้ถือต่อไป
อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกจากสหรัฐยังไม่หมด ตัวเลขเศรษฐกิจยังแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจกับนักลงทุน โดยในสัปดาห์ที่แล้ว ยอดค้าปลีกของสหรัฐที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดในเดือน ก.พ. 55 เพิ่มขึ้น 1.1% และตลาดแรงงานของสหรัฐเองก็ยังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 รายสู่ 351,000 ราย แม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง และความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐลดความร้อนแรงลงในช่วงปลายสัปดาห์ แต่ดัชนียังคงปรับตัวขึ้นได้เช่นเดียวกัน ตลาดหุ้นยุโรปที่ได้รับปัจจัยบวกจากการที่รอดพ้นวิกฤติหนี้ในช่วงที่ผ่านมา และแรงหนุนจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐ และเยอรมันฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดยังไม่มีปัจจัยลบที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ราคาหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
สำหรับตลาดหุ้นเอเชียยังคงได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และกระแสเงินทุนไหลเข้าทำให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่ได้รับผลดีจากการที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงด้วยอย่างไรก็ตาม การที่จีนยังคงเข้มงวดกับการควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ทำให้ตลาดหุ้นจีนยังคงถูกกดดันจากมาตรการควบคุมความร้อนแรงของเศรษฐกิจต่อไปขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลดีจากกระแสเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ระยะสั้นแนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้นต่อไป โดย SETI ปิดที่ 1,189.56 (+2.66%WoW) และกำลังเข้าทดสอบระดับ 1,200 จุด อย่างไรก็ตาม เรายังคงต้องย้ำถึงความ
ระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากอาจเห็นแรงขายทำกำไรหากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลดีจากกระแสเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ระยะสั้นแนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้นต่อไป โดย SET ปิดที่ 1,189.56 (+2.66%WoW) และกำลังเข้าทดสอบระดับ 1,200 จุด อย่างไรก็ตาม เรายังคงต้องย้ำถึงความระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากอาจเห็นแรงขายทำกำไรหากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ
"แต่เรายังเชื่อว่าราคาทองคำในระยะยาวยังคงมีแนวโน้มที่เป็นขาขึ้นต่อไปจากความไม่แน่นอนว่าวิกฤติหนี้ในยุโรปจะจบลงจริงหรือไม่ และเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังมีคำถามต่อความยั่งยืนของการฟื้นตัว และราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง"นายสานุพงศ์ กล่าว