xs
xsm
sm
md
lg

TFUNDเร่งซ่อมแซมโรงงาน คาดไตรมาส4ปีนี้ยังจ่ายปันผลได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ. เอเซียพลัส เผย กองไทคอน หลังเจอมรสุมน้ำท่วม รายได้ไตรมาส4 ปี 54 ปรับลดสูญเสียค่าเช่าโรงงานตกเดือนละ 40.4 ล้านบาท ชี้ลูกค้าแห่เช่าโรงงานโซนตะวันออกแทนหลังไม่เจอปัญหาน้ำท่วม คาดปีนี้เริ่มดีขึ้นทยอยซ่อมแซ่มโรงงานที่เสียหายจากน้ำท่วม โดยคาดจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. ก่อนส่งมอบให้กับลูกค้าต้นเดือน มี.ค. 55 คาดไตรมาส 4 ปีนี้น่าจะจ่ายปันผลได้ 0.65 บาทต่อหน่วย

รายงานข่าวจาก บล. เอเชียพลัส เปิดเผยว่า กองทุนรวมอสังหาฯไทคอน (TFUND) ไตรมาส4 ในปี 54 รายได้จากการลงทุนสุทธิ ไตรมาส 4 ปี 54 ลดลง 48% yoy สถานการณ์ธุรกิจให้เช่าโรงงานและคลังสินค้างวด 4 ไตรมาส 54 ประสบปัญหาภัยน้ำท่วม เนื่องจากโรงงานที่ตั้งอยู่ใน 4 นิคม (สวนอุตสาหกรรมโรจนะ, ไฮเทค, บางปะอิน และนวนคร) รวม 99 โรง (จากทั้งหมด 209 โรง) คิดเป็นพื้นที่ให้เช่า 2.43 แสนตารางเมตร (สัดส่วนพื้นที่ 50.3% ของพื้นที่ให้เช่ารวม) ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วม ทำให้กองทุนต้องสูญเสียรายได้ค่าเช่าจากโรงงานดังกล่าวเดือนละ 40.4 ล้านบาท (สัดส่วนรายได้ 50.7% ของรายได้ค่าเช่า)

ขณะที่โรงงานในโซนภาคตะวันออก ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมจำนวน 110 โรง ปัจจุบันมีลูกค้าต้องการขอเช่าพื้นที่จำนวนมาก ทำให้อัตราการเช่าเฉลี่ยงวด 4Q54 เต็ม 100% และสามารถปรับขึ้นค่าเช่าจากเฉลี่ย 170 บาท/ตร.ม./เดือน เป็น 190 บาท/ตร.ม./เดือน ทำให้ภาพรวมคาดงวด ไตรมาส 4 ปี 54 มีรายได้ค่าเช่าและบริการลดลง 48% yoy เท่ากับ 118 ล้านบาท และรายได้จากการลงทุนสุทธิ 95ล้านบาท ลดลง 47%yoy

อย่างไรก็ตาม จากผลประกอบการงวด 9M54 ที่เติบโตโดดเด่น ส่งผลให้ปี 2554 คงมีรายได้จากการลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 7% yoy อยู่ที่ 653 ล้านบาท

สำหรับทิศทางการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 55 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากจุดต่ำสุดใน ไตรมาส 4 ปี 54 เนื่องจากปัจจุบันทางกองทุนได้ทยอยซ่อมแซ่มโรงงานที่เสียหายจากน้ำท่วม โดยคาดจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. ก่อนส่งมอบให้กับลูกค้าต้นเดือน มี.ค. 2555 ซึ่งจะทำให้ทางกองทุนฯ สามารถเริ่มเก็บค่าเช่าได้บางส่วนตั้งแต่ ไตรมาส 1 ปี 55 และเร็วกว่าฝ่ายวิจัยคาดไว้ ทั้งนี้ลูกค้าส่วนใหญ่มีความต้องการขอเช่าในพื้นที่เดิมอยู่ ทำให้คาดกรณีเลวร้ายสุด อัตราการเช่าเฉลี่ยของโรงงานในภาคกลางที่เสียหายจากน้ำท่วมน่าจะยืนได้อย่างน้อย 60% ก่อนจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสถัดไป และกลับสู่ระดับปกติ 80 - 90% ในงวด 2H55

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคงประมาณการอย่างอนุรักษ์นิยมเช่นเดิม โดยเบื้องต้นประเมินรายได้จากการลงทุนสุทธิปี 2555 เท่ากับ 613 ล้านบาท ลดลง 6% yoy โดยประมาณการยังไม่ได้รวมเงินชดเชยจากประกันภัยสำหรับความเสียหายของโรงงาน ภายใต้วงเงิน 9 พันบาท/ตร.ม. (หรือเฉลี่ย 20 ล้านบาท/โรงงาน) และ Business Interruption วงเงิน 20 ล้านบาทสำหรับทุกโรงงานทั้งหมด รวมถึงแผนการเพิ่มทุนเพื่อซื้อโรงงานจาก TICON ในงวด 1Q55 มูลค่า 750 ล้านบาท และงวด 4Q55 มูลค่า 1.5 พันล้านบาท

ทั้งนี้ด้วยราคาหน่วยลงทุนปัจจุบัน ใกล้เคียงกับคาดการณ์ NAV สิ้นปี 2555 ที่ 10.68 บาท จึงคงแนะนำถือ เพื่อรับเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวด ไตรมาส 4 ปี 54 ซึ่งคาดจะจ่ายหน่วยละ 0.1 บาท เทียบเท่า Annualized Div Yield 4% ขณะที่ปี 2555 คาดเงินปันผล 0.65 บาท/หน่วย หรือ6.4% ต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น