ปัญหาน้ำท่วมในหลาย ๆ จังหวัด รวมถึงกรุงเทพฯ เริ่มจะมีความคลี่คลายลงไปบ้างแล้วในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตามจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายหน่วยงาน หรือหลายบริษัทต้องมีการซ่อมแซมและคิดแนวทางป้องกันเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์อย่างเช่นที่ต้องประสบมา โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ที่มีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน (TFUND) เข้าไปลงทุนในบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นจำกัด (มหาชน) หรือTICON ก็ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากเช่นกัน และได้มีการคิดป้องกันโรงงานของตนเองเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่อไป
มาในวันนี้ สุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการ (บลจ.) บัวหลวง ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน (TFUND) บอกว่า ขณะนี้น้ำที่โรงงานได้เริ่มลดลงมาแล้ว และกำลังมีการอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม รวมถึงการวางระบบในเรื่องของน้ำท่วมโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งตรงนี้จะเป็นภาพใหญ่ของรัฐบาลที่จะเข้ามาดำเนินการ ขณะที่ในภาพเล็กลงมาหน่อยเราจะสร้างคั้นกั้นน้ำเพื่อป้องกันอีกทีหนึ่ง
ทั้งนี้ภายในโรงงานได้รับความเสียหายมาก หลายบริษัทที่เข้ามาลงทุนในโรงงานเริ่มที่จะมาทำความสะอาด รวมถึงประเมินความเสียหายร่วมกับบริษัทประกัน
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์น้ำท่วม บลจ. บัวหลวง เองได้แจ้งทางนักลงทุนให้เข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าแผนการเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนจำนวน 1,500 ล้านบาท ในกองทุน TFUND จะเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่จากราคาที่ตกลงไปขณะนี้ราคาของได้เริ่มกลับมาดีขึ้นเป็นลำดับ
“ทั้งนี้ที่ตั้งของกองทุนดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 43 โรงงาน ทั้งหมดโดยน้ำท่วมหมด และคาดว่าจากผลกระทบครั้งนี้ยาวไปถึงไตรมาส 4 ของปี 2554 และยาวไปถึง ไตรมาส 1 ของปี 2555 แต่อย่างไรก็ตาม กองทุนดังกล่าวยังสามารถจ่ายปันผลให้แก่นักลงทุนได้ แต่อาจจะไม่ได้น้อยกว่าที่ผ่านมา นอกจากนี้แล้วกองทุนยังได้ทำประกันด้านวินาศภัยเอาไว้ ซึ่งเมื่อธุรกิจในธุรกิจในโรงงานหยุดชะงักลงวงเงินตรงนี้ที่ได้รับจะอยู่ในประมาณ 1 เดือน”
สำหรับกองทุน TFUND ปัจจุบันลงทุนในที่ดินอาคารโรงงานและคลังสินค้า รวม 209 หลังซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม และโครงการ รวม 10 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง 20 หลัง นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร (บางปะกง) จังหวัดชลบุรี 59 หลัง โครงการไทคอน โลจิสติคส์พาร์ค บางนา จังหวัดฉะเชิงเทรา 8 หลัง นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ4 หลัง นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ดจังหวัดระยอง 1 หลัง เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี 14 หลัง นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จังหวัดชลบุรี 18 หลังสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 46 หลัง นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน14 หลัง และนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า(ไฮเทค) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน25 หลัง
ด้าน วีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นจำกัด (มหาชน) TICON ได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า รายได้รวมจะโตก้าวกระโดดมากเพราะจะมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน TFUND จำนวนรวม 2,700 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/2555 ขายสินทรัพย์ 700 ล้านบาท และไตรมาส 3/2555 จะขายสินทรัพย์ให้อีก 1.5-2.0 พันล้านบาท นอกจากนี้จะขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติกส์ (TLOGIS) จำนวน1.5-2.0 พันล้านบาทในไตรมาส2/2555
นอกจากนี้รายได้จากค่าเช่าโรงงานยังเติบโต โดยในปี 2555 บริษัทจะมีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่า 1.5 แสนตร.ม. และโรงงานให้เช่า 8-9 หมื่นตร.ม. เพิ่มจากปี 2554 ที่มีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่า 1.3 แสนตร.ม. และโรงงานให้เช่า 6-8 หมื่นตร.ม
“เชื่อว่าผลงานรวมปี 2555 น่าจะเติบโตก้าวกระโดดทั้งกำไรและรายได้รวม เพราะปีหน้าบริษัทมีแผนขายคลังสินค้าเข้ากองทุน TFUND หลังก่อนหน้านี้ได้เลื่อนมาแล้ว ซึ่งบริษัทมีแผนขายคลังสินค้าเนื่องจากน้ำท่วม โดยโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่น้ำท่วมอย่าง บางปะอินไฮเทค นวนคร และโรจนะ ขณะที่มูลค่าส่วนที่เหลือของการขายโรงงานเข้า TFUND อยู่ที่ราว 700 ล้านบาท เทียบกับ 1.6 พันล้านบาทในช่วงก่อนหน้า”