บลจ.ยูโอบี เปิดไอพีโอ “กองทุนอสังหาฯ เอท ทองหล่อ” 23 ม.ค. - 3 ก.พ. 55 นี้ รับประกันค่าเช่าขั้นต่ำคิดเป็นผลตอบแทน 6.5% ต่อปี ปลื้มปี54 ผลงานดีโต 22% สวนอุตสาหกรรม ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20% เน้นระมัดระวังภายใต้ปัจจัยเสี่ยงในและต่างประเทศ เตรียมปัดฝุ่น 4 กองทุนเก่า ทำการตลาดใหม่ หลังผลงานโดดเด่นเข้าตา ควบแผนออกกองมุนทองคำป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเพิ่มเติม 1กองทุน
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ไทย) เปิดเผยว่า ปี54 บริษัทมีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ประมาณ 65,700 ล้านบาท จากสิ้นปี53 ที่ 53,850 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 22.00% ซึ่งหากมองเฉพาะธุรกิจกองทุนรวมบริษัทในปี54 ในกลุ่มบลจ.ที่มีการดำเนินธุรกิจมาอย่างน้อย 5 ปี บริษัทมีการเติบโตของสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ1 ของอุตสาหกรรม ประมาณ 31.00%
ในขณะที่อุตสาหกรรมกองทุนรวมมีการเติบโตเพียง 2.48% โดยการเติบโตหลักยังมาจาก “กองทุนเปิดยูโอบี อินคัม เดลี่” ที่จัดตั้งขึ้นในเดือนก.พ. 54 ที่มีขนาดกองทุนเพียง 531 ล้านบาท ล้านบาท ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 2,725% ในส่วนของกองทุนหุ้นก็มี “กองทุนเปิดยูโอบี สมาร์ทฟันด์ ดิวิเดนด์ โฟกัส อิควิตี้” ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพดีและให้ปันผลสูงซึ่งในปี54 ที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทนประมาณ 14% ซึ่งจะเป็น 2 ใน 4 กองทุน ที่บริษัทจะนำมาทำการตลาดต่อเนื่องในปี55 นี้ รวมทั้งกองทุนทองคำและกองทุนโกลบอลบอนด์ของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่สร้างการเติบโตที่ดีให้อย่างต่อเนื่องในปี55 นี้
“ในปี55 บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่ม AUM ขึ้นอีก 10,000 - 20,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณ 20% โดยตั้งเป้าการเติบโตแบบระมัดระวังภายใต้ปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศที่ยังมีอยู่ แต่ก็เชื่อว่าการที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากลดการคุ้มครองลงเหลือ 1 ล้านบาทต่อคนต่อธนาคารในกลางปี55 จะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมกองทุนด้วยเช่นกัน
โดยบริษัทมีแผนที่จะเตรียมออกกองทุนทองคำที่มีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมอีก 1 กองทุน เพราะมองว่าแนวโน้มของค่าเงินบาทต่อดอลลาร์จะมีแนวอ่อนค่าลงในช่วงปี55”วนา พูลผล กล่าว
นายชัยวัฒน์ เดชมหันตกุล หัวหน้าฝ่ายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บลจ.ยูโอบี (ไทย) กล่าว่า บริษัทจะเสนอขาย “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบี ฟรีโฮลด์ เอท ทองหล่อ (UOB8TF)” ระหว่างวันที่ 23 ม.ค.-3 ก.พ.2555 ลงทุนกรรสิทธิ์ในอาคารดิ เอท ทองหล่อ เรสซิเดนซ์เซส เงินทุนโครงการ 2,370 ล้านบาท ในส่วนของร้านค้าปลีกและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ จำนวน 148 ห้อง โดยคาดว่าผลตอบแทนใน 2 ปีแระจะอยู่ที่ประมาณ 6.5% ต่อปี โดยจุดเด่นของกองทุนนี้คือตั้งอยู่ใจกลางเมืองและมีกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ รวมทั้งกองทุนจะได้รับค่าเช่าเหมาคงที่ 154.05 ล้านบาทในระยะเวลา 2 ปีแรกและหลักประกันเงินสดวางในบัญชีกองทุน 140 ล้านบาท กรณีที่โครงการมีรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าก็จะมีเงินส่วนนี้นำมาจ่ายให้กับนักลงทุนได้ รวมถึงโอกาสในการเติบโตของโครงการในอนาคตที่สามารถจะดึงทรัพย์สินอื่นมรย่ายใจกลางเมือง (ECB) เข้ามาไว้ในโครงการได้อีก
“ปัจจุบันลูกค้าของโครงการเป็นชาวญี่ปุ่นประมาณ 70% โดยมีสัญญาเช่าระยะเวลา 1 ปี สัดส่วนประมาณ 60% สัญญาเช่า 1-11 เดือน สัดส่วนประมาณ 20% และคู่แข่งในย่านทองหล่อมีเพียง 2 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อัตราผู้เข้าพักเฉลี่ย 90% เท่ากันทุกราย ทำให้การแข่งขันจึงแทบจะไม่มี ส่วนการปรับค่าเช่าขึ้นอยู่กับจังหวะและสภาวะซึ่งปีนี้มีโอกาสปรับขึ้นได้เช่นกันในอัตรา 3-5% และตั้งแต่ปีที่ 5หากสินทรัพย์ของโครงการสามารถขายได้มากกว่า 30% ก็พร้อมที่จะขายเพื่อปิดโครงการได้เช่นกัน”นายชัยวัฒน์ กล่าว
