บลจ.ยูโอบี เผย AUM ปีนี้โตขึ้น 8,000 ล้านหลังจากออกกอเทอมฟันด์ต่อเนื่องพร้อมได้ฐานลูกค้าแบงก์เพิ่มขึ้น ชี้ แนวโน้ม ดบ. ไม่ลดลงมาเหตุเงินเฟ้อยังสูง เตรียมเปิดตัวกองอสังหาฯ ใหม่เร็วนี้
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายวางแผนการลงทุน ส่วนตัวแทนขาย 1 สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด เปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของบริษัทปีนี้โตขึ้นจากเดิน 8,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกองทุนเทอมฟันด์ที่ออกขายอย่างต่อเนื่องและได้ฐานลูกค้าจากธนาคารที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกองทุนเปิดยูโอบี อินคัม เดลี ซึ่งปัจจุบันมีขนาดอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท และจะยังคงออกกองเทอมฟันด์ต่อเนื่อง อาจจะเป็นกองทุนที่อายุไม่เกิน 1 ปี แม้ว่าดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มปรับตัวลงแต่ไม่น่าจะลงมากเพราะเงินเฟ้อก็ยังสูงอยู่
ทั้งนี้ได้แผนของบริษัท ได้กำลังมองหากองทุนใหม่ๆ โดยจะออกเป็นลักษณะของกองทุนส่วนบุคคลให้กับลูกค้าลงทุนขั้นต่ำ 10 ล้านบาท ึ่งจะเป็นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 1 กองทุนในเร็วๆนี้ ได้แก่ กองทุนอสังหาริมทรัพย์กรรมสิทธิ์ยูโอบี เอท ทองหล่อ มูลค่าโครงการ 2,370 ล้านบาท หลังจากเจอปัญหาน้ำท่วมจึงต้องเลือนการเปิดขายออกไป
โดยกองทุนได้รับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าพื้นที่ 2 ส่วน ที่เป็น พลาซา และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ โดยใน 2 ปีแรกกองทุนจะการันตีประกันค่าเช่าคิดเป็นอัตราผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอยู่ที่ 6%และหากพ้น 5 ปีแรกถ้ามีผู้มาเสนอซื้อในราคาที่มากกว่า 30% ก็จะขายออกไปและนำผลประโยชน์มาคืนแก่ผู้ถือหน่วยและเป็นเกณฑ์กำไรที่ตั้งไว้สำหรับขายสินทรัพย์ โดยราคาประเมินจากทางการพื้นที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณกว่า 1-1.2 แสนบาทต่อตารางเมตรแต่กองทุนไปซื้อมาได้ในราคาเฉลี่ย ตารางเมตรละ 9 หมื่นกว่าบาท
ขณะเดียวกัน ยังได้แนะนำการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศด้วยว่า บลจ.ยูโอบีได้ออกกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ และปิดขายไอพีโอ ไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่ง จะเปิดขายอีกทีในวันที่ 6 ธ.ค. นี้ โดยกองทุนดังกล่าวลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีลงทุนในกองทุนหลัก Templeton Global Bond Fund - I class
"กองทุนนี้ลงทุนในตราสารหนี้ชั้นดีทั่วโลก ซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่าหุ้น และได้รับผลตอบแทน 3 ทางได้แก่ ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย (Interest Rate) การทำกำไรจากราคาซื้อขาย (Spread) และโอกาสในการทำกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน Currency" นางสาวรัชดา กล่าว
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายวางแผนการลงทุน ส่วนตัวแทนขาย 1 สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด เปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของบริษัทปีนี้โตขึ้นจากเดิน 8,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกองทุนเทอมฟันด์ที่ออกขายอย่างต่อเนื่องและได้ฐานลูกค้าจากธนาคารที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกองทุนเปิดยูโอบี อินคัม เดลี ซึ่งปัจจุบันมีขนาดอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท และจะยังคงออกกองเทอมฟันด์ต่อเนื่อง อาจจะเป็นกองทุนที่อายุไม่เกิน 1 ปี แม้ว่าดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มปรับตัวลงแต่ไม่น่าจะลงมากเพราะเงินเฟ้อก็ยังสูงอยู่
ทั้งนี้ได้แผนของบริษัท ได้กำลังมองหากองทุนใหม่ๆ โดยจะออกเป็นลักษณะของกองทุนส่วนบุคคลให้กับลูกค้าลงทุนขั้นต่ำ 10 ล้านบาท ึ่งจะเป็นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 1 กองทุนในเร็วๆนี้ ได้แก่ กองทุนอสังหาริมทรัพย์กรรมสิทธิ์ยูโอบี เอท ทองหล่อ มูลค่าโครงการ 2,370 ล้านบาท หลังจากเจอปัญหาน้ำท่วมจึงต้องเลือนการเปิดขายออกไป
โดยกองทุนได้รับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าพื้นที่ 2 ส่วน ที่เป็น พลาซา และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ โดยใน 2 ปีแรกกองทุนจะการันตีประกันค่าเช่าคิดเป็นอัตราผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอยู่ที่ 6%และหากพ้น 5 ปีแรกถ้ามีผู้มาเสนอซื้อในราคาที่มากกว่า 30% ก็จะขายออกไปและนำผลประโยชน์มาคืนแก่ผู้ถือหน่วยและเป็นเกณฑ์กำไรที่ตั้งไว้สำหรับขายสินทรัพย์ โดยราคาประเมินจากทางการพื้นที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณกว่า 1-1.2 แสนบาทต่อตารางเมตรแต่กองทุนไปซื้อมาได้ในราคาเฉลี่ย ตารางเมตรละ 9 หมื่นกว่าบาท
ขณะเดียวกัน ยังได้แนะนำการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศด้วยว่า บลจ.ยูโอบีได้ออกกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ และปิดขายไอพีโอ ไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่ง จะเปิดขายอีกทีในวันที่ 6 ธ.ค. นี้ โดยกองทุนดังกล่าวลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีลงทุนในกองทุนหลัก Templeton Global Bond Fund - I class
"กองทุนนี้ลงทุนในตราสารหนี้ชั้นดีทั่วโลก ซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่าหุ้น และได้รับผลตอบแทน 3 ทางได้แก่ ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย (Interest Rate) การทำกำไรจากราคาซื้อขาย (Spread) และโอกาสในการทำกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน Currency" นางสาวรัชดา กล่าว