ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.ยูโอบี เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า กระจายการลงทุนบอนด์ในบอนด์ชั้นดีทั่วโลก ออก กองทุนเปิด "ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ (UOBSGB)" ลงทุนในกองทุนหลัก Templeton Global Bond Fund - I class เปิดขาย IPO ตั้งแต่วันที่ 22 - 28 พ.ย.54 ชี้ ได้โอกาสรับผลตอบแทนที่มีความผันผวนน้อยกว่าตราสารทุน
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด กล่าวว่า กล่าวว่า พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่มักจะกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ไม่มากก็น้อย เนื่องจากการลงทุนในตราสารหนี้สามารถลงทุนได้ในทุกช่วงภาวะเศรษฐกิจ และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ประกอบกับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้นั้นมีความผันผวนน้อยกว่าตราสารทุน
ดังนั้น บลจ.ยูโอบี จึงเปิดโอกาสให้กับนักลงทุน กระจายพอร์ตการลงทุนไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกผ่าน กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ (UOBSGB) ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Templeton Global Bond Fund - I class (กองทุนหลัก) กองทุนชั้นนำขนาดใหญ่ของโลก มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 4 หมื่นกว่าล้านเหรียญสหรัฐ (ณ 30 ก.ย. 54) โดยสัดส่วนการลงทุนในปัจจุบันของกองทุนหลักนั้นเน้นลงทุนในตราสารหนี้ของภาครัฐต่างประเทศ และปัจจุบันได้รับการจัดอันดับกองทุนระดับ AAA/V4 จาก S&P Fund Management Rating และระดับ 5 ดาวจาก Overall Morningstar Rating เปิดเสนอขายครั้งแรก 22 - 28 พ.ย.54 และลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท
ทั้งนี้ นายวนา กล่าวเพิ่มเติมถึงโอกาสที่นักลงทุนจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนใน กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ (UOBSGB) ว่า กองทุน Templeton Global Bond Fund - I class (กองทุนหลัก) มีกลยุทธ์การบริหารพอร์ตการลงทุนเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีด้วยหลักการ 3C คือ 1.) Curve ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย (Interest Rate) 2.) Credit - โอกาสในการทำกำไรจากราคาซื้อขาย (Spread) และ 3.) Currency - โอกาสในการทำกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
"จะเห็นว่าการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกค่อนข้างมีความน่าสนใจ นอกจากจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของท่าน แต่ยังสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่มีความผันผวนน้อยกว่าตราสารทุน" นายวนา กล่าว
สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ นักลงทุนหลายท่านมักจะมีความกังวลในปัจจัยความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่ง กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ (UOBSGB) เองได้มีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เนื่องจากสกุลเงินของกองทุนหลักเป็นดอลล่าร์สหรัฐฯ
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด กล่าวว่า กล่าวว่า พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่มักจะกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ไม่มากก็น้อย เนื่องจากการลงทุนในตราสารหนี้สามารถลงทุนได้ในทุกช่วงภาวะเศรษฐกิจ และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ประกอบกับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้นั้นมีความผันผวนน้อยกว่าตราสารทุน
ดังนั้น บลจ.ยูโอบี จึงเปิดโอกาสให้กับนักลงทุน กระจายพอร์ตการลงทุนไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกผ่าน กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ (UOBSGB) ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Templeton Global Bond Fund - I class (กองทุนหลัก) กองทุนชั้นนำขนาดใหญ่ของโลก มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 4 หมื่นกว่าล้านเหรียญสหรัฐ (ณ 30 ก.ย. 54) โดยสัดส่วนการลงทุนในปัจจุบันของกองทุนหลักนั้นเน้นลงทุนในตราสารหนี้ของภาครัฐต่างประเทศ และปัจจุบันได้รับการจัดอันดับกองทุนระดับ AAA/V4 จาก S&P Fund Management Rating และระดับ 5 ดาวจาก Overall Morningstar Rating เปิดเสนอขายครั้งแรก 22 - 28 พ.ย.54 และลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท
ทั้งนี้ นายวนา กล่าวเพิ่มเติมถึงโอกาสที่นักลงทุนจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนใน กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ (UOBSGB) ว่า กองทุน Templeton Global Bond Fund - I class (กองทุนหลัก) มีกลยุทธ์การบริหารพอร์ตการลงทุนเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีด้วยหลักการ 3C คือ 1.) Curve ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย (Interest Rate) 2.) Credit - โอกาสในการทำกำไรจากราคาซื้อขาย (Spread) และ 3.) Currency - โอกาสในการทำกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
"จะเห็นว่าการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกค่อนข้างมีความน่าสนใจ นอกจากจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของท่าน แต่ยังสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่มีความผันผวนน้อยกว่าตราสารทุน" นายวนา กล่าว
สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ นักลงทุนหลายท่านมักจะมีความกังวลในปัจจัยความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่ง กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล บอนด์ ฟันด์ (UOBSGB) เองได้มีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เนื่องจากสกุลเงินของกองทุนหลักเป็นดอลล่าร์สหรัฐฯ
