xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหายุโรป-สหรัฐฯยังไม่ชัดเจน กูรูแนะลงทุนแบบปลอดภัยไว้ก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดกาารายวัน-นักวิเคราะห์บล. ฟิลลิป ประเมินภาพรวมปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่คลี่คลาย ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่ชัดเจน แนะนักลงทุนลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยไว้ก่อน

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นักลงทุนหันกลับมาสนใจตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าคาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางฝั่งยุโรปยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ในช่วงท้ายปีทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐ และหุ้นยุโรป มีลุ้นได้เห็น Santa Claus Rally ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายนี้ อย่างไรก็ตามเรายังไม่สามารถวางใจได้ ขณะที่ความเสี่ยงของปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่ได้หายไปไหน และคาดว่าจะกลับมารบกวนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงช่วงต้นปี 2555 ดังนั้น เราจึงมองว่าการเก็งกำไรในช่วงท้ายปี 2554 คงจะไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเท่าไหร่ และนักลงทุนส่วนใหญ่ตอนนี้ต่างรอดูสถานการณ์มากกว่าที่จะเสี่ยง ด้วยเหตุนี้เราจึงยังคงคำแนะนำเดิม ใช้ความระมัดระวังในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง และเน้นลงทุนแบบปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า โดยลงทุน PCASH ของ บลจ. ฟิลลิป ซึ่งเป็นกองทุน Money Market Fund ที่เราแนะนำ

ขณะที่สัปดาห์ที่แล้วเราให้ขายทำกำไร กองทุนน้ำมัน โดยราคาน้ำมันกลับปรับขึ้นมาใกล้ 100 US$/bbl. อีกครั้ง เรามองว่าหากยังมีกองทุนน้ำมันอยู่ถือเป็นโอกาสที่ดีในการขายทำกำไร สำหรับการลงทุนระยะยาวแนะนำให้ รอสะสมเมื่อราคาปรับตัวลดลงแล้วจะดีกว่า โดยมองว่าในปี 2555 มีโอกาสสูงที่จะได้เก็บสะสมสินทรัพย์เสี่ยงราคาถูก

ทั้งนี้เรายังคงเน้นให้ลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) เป็นหลัก อย่างกองทุน ABPAC (Aberdeen Asia Pacific ex Japan) ของ บลจ. อเบอร์ดีน และ T-Global Bond Fund ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศของ บลจ. ธนชาต โดยให้สะสมเมื่อเห็นราคาอ่อนตัว ส่วนกองทุนทองคำแนะนำชะลอการลงทุนแนวโน้มระยะสั้นราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลง ขณะที่การปรับตัวขึ้นมีจำกัด ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงนักลงทุนหันเข้าหาดอลล่าร์สหรัฐแทน อย่างไรก็ตาม เรายังเชื่อว่าปัจจัยปัญหาหนี้ยุโรป เงินเฟ้อ และคาดการณ์มาตรการ QE ของทั้งยุโรป และสหรัฐ จะส่งผลดีกับราคาทองคำในระยะยาว

สำหรับการลงทุนในกองทุน LTF สัปดาห์สุดท้าย เรายังแนะนำให้ลงทุน KSDLTF (K-Strategic Defensive LTF) เหมือนเดิม โดยเรากังวลความผันผวนในช่วงต้นปี 2555 จากปัจจัยเสี่ยงปัญหาหนี้ยุโรป ซึ่ง SETI อาจปรับตัวลดลงแรงได้ แต่ก็จะเป็นโอกาสและจังหวะที่ดี ในการสะสมลงทุนกองทุน LTF นักลงทุนควรวางแผนให้ดี และอย่าลืมสับเปลี่ยนกองทุนออกจาก KSDLTF ไปยังกองทุน LTF ที่ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากตลาดหุ้น หากมีโอกาส

อย่างไรก็ตามปัญหาหนี้ยุโรปในช่วงปลายปียังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาสนใจตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น หลังจากฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ โดยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ 364,000 ราย ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เมษายน 2551 ข้อมูลที่อยู่อาศัยของสหรัฐ อย่างยอดขายบ้านใหม่พุ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน และยอดขายบ้านมือ
2 ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 นี้ คาดว่าจะออกมาไม่ต่ำกว่า 3% ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐดูสดใสมากขึ้น กลบปัจจัยลบอื่นๆ อย่างการปรับประมาณการการเติบโต (GDP Growth) ในไตรมาส 3/54 ลงเหลือ 1.8% จากประมาณการก่อนหน้าที่ 2% นอกจากนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังช่วยให้ตลาดหุ้นยุโรปดีดกลับเช่นกัน อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ยังไม่มีความคืบหน้าใหม่ๆ เข้ามาในช่วงปลายปีเท่านั้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลียังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น