ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ. บัวหลวง เผยแผนการดำเนินงานช่วง 3 เดือนส่งท้ายปี 54 หลังต้องเจอปัญหายุโรปโหมกระหน่ำ เตรียมให้ความรู้ ความเข้าใจเพื่อกระจายความเสี่ยงหลายรูปแบบ หวังโตเพิ่มในปี 55
นายหรรสา สุสายัณห์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในช่วงที่เหลือ 2 - 3 เดือนที่เหลือของปี 2554 นี้ หลังจากที่เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจโลกรุกรามไปทั่วหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ดังนั้นบริษัทจึงเน้นให้ความรู้เรื่องของการกระจายความเสี่ยงอย่างไรในข้อจำกัดของการออมที่อยู่ในระบบมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการออมที่เป็นแบบประหยัดภาษีเองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่สมาชิกด้วย
นอกจากนี้แล้วบริษัทยังคงให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในรูปของพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน หุ้นกู้สามัญที่มีการลงทุนอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว โดยเราจะให้ความรู้ในส่วนของกองทุนรวมทองคำ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เข้าไปอีก เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่สมาชิก และให้ความเข้าใจในรูปแบบใหม่ ๆ ของกองทุนเสริมเข้าไปอีก
“บริษัทยังคงใช้กลยุทธ “Manage with Client” ซึ่งเน้นการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าหลัก 3 กลุ่ม คือ 1) ลูกค้าสถาบันขนาดใหญ่ 2) ลูกค้านิติบุคคลที่ต้องการผู้ช่วย และ 3) ลูกค้า High Net Worth จากฐานลูกค้าธนาคารกรุงเทพเป็นหลัก จากเมื่อก่อนที่จะเน้นการบริหารให้ลูกค้าตอนนี้ก็จะบริหารไปพร้อมกับลูกค้า เพราะ บริษัทอยากให้ลูกค้าให้ความสำคัญกับการจัดพอร์ตการลงทุนโดยพิจารณาข้อมูล” นาย หรรสา กล่าว
ขณะเดียวกัน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะมีการเติบโตต่อเนื่องได้เป็นปกติ เพราะ มีเงินที่เข้ามาตลอดจากสมาชิกที่เป็นสมาชิกที่ออมเข้ามาอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็จะมีทางเลือกการลงทุนผ่าน Employee’s Choices เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การลงทุนของสมาชิกได้ดียิ่งขึ้น
นายหรรสา กล่าวเสริมว่า ในปีนี้ที่เราจะเน้นให้ความรู้ความเข้าแก่สมาชิกได้อย่างเต็มที่แล้ว คาดว่าในปีหน้า บริษัทเตรียมที่จะรุกด้านของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากยิ่งขึ้น เพราะคาดว่าการเติบโตของกองทุนจะโตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากว่าสมาชิกได้ทำความเข้าใจและรับรู้ด้านการลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นแล้ว
นอกจากนี้แล้ว ส่วนแบ่งการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคงไม่ใช่ประเด็นหลักสำหรับบริษัท แทนที่จะไปมุ่งที่รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่เพื่อให้ได้ขนาด แต่ไม่มีรายได้บริษัทคงจะหันมาจับฐานบริษัทขนาดกลางถึงเล็กซึ่งบริษัทเหล่านี้เมื่อเลือกใช้บริการกับเราแล้วก็จะอยู่กับเราไปอีกนานในระยะยาวไม่ค่อยเปลี่ยนผู้จัดการกองทุนบ่อยเหมือนบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทขนาดเล็กสามารถเข้ามาใช้กองทุนร่วม (Pooled Fund) ได้เลย ปัจจุบันรายได้กว่า 50% ก็มาจากกองทุนร่วมที่มีอยู่ในปัจจุบัน
นายหรรสา สุสายัณห์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในช่วงที่เหลือ 2 - 3 เดือนที่เหลือของปี 2554 นี้ หลังจากที่เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจโลกรุกรามไปทั่วหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ดังนั้นบริษัทจึงเน้นให้ความรู้เรื่องของการกระจายความเสี่ยงอย่างไรในข้อจำกัดของการออมที่อยู่ในระบบมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการออมที่เป็นแบบประหยัดภาษีเองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่สมาชิกด้วย
นอกจากนี้แล้วบริษัทยังคงให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในรูปของพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน หุ้นกู้สามัญที่มีการลงทุนอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว โดยเราจะให้ความรู้ในส่วนของกองทุนรวมทองคำ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เข้าไปอีก เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่สมาชิก และให้ความเข้าใจในรูปแบบใหม่ ๆ ของกองทุนเสริมเข้าไปอีก
“บริษัทยังคงใช้กลยุทธ “Manage with Client” ซึ่งเน้นการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าหลัก 3 กลุ่ม คือ 1) ลูกค้าสถาบันขนาดใหญ่ 2) ลูกค้านิติบุคคลที่ต้องการผู้ช่วย และ 3) ลูกค้า High Net Worth จากฐานลูกค้าธนาคารกรุงเทพเป็นหลัก จากเมื่อก่อนที่จะเน้นการบริหารให้ลูกค้าตอนนี้ก็จะบริหารไปพร้อมกับลูกค้า เพราะ บริษัทอยากให้ลูกค้าให้ความสำคัญกับการจัดพอร์ตการลงทุนโดยพิจารณาข้อมูล” นาย หรรสา กล่าว
ขณะเดียวกัน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะมีการเติบโตต่อเนื่องได้เป็นปกติ เพราะ มีเงินที่เข้ามาตลอดจากสมาชิกที่เป็นสมาชิกที่ออมเข้ามาอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็จะมีทางเลือกการลงทุนผ่าน Employee’s Choices เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การลงทุนของสมาชิกได้ดียิ่งขึ้น
นายหรรสา กล่าวเสริมว่า ในปีนี้ที่เราจะเน้นให้ความรู้ความเข้าแก่สมาชิกได้อย่างเต็มที่แล้ว คาดว่าในปีหน้า บริษัทเตรียมที่จะรุกด้านของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากยิ่งขึ้น เพราะคาดว่าการเติบโตของกองทุนจะโตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากว่าสมาชิกได้ทำความเข้าใจและรับรู้ด้านการลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นแล้ว
นอกจากนี้แล้ว ส่วนแบ่งการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคงไม่ใช่ประเด็นหลักสำหรับบริษัท แทนที่จะไปมุ่งที่รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่เพื่อให้ได้ขนาด แต่ไม่มีรายได้บริษัทคงจะหันมาจับฐานบริษัทขนาดกลางถึงเล็กซึ่งบริษัทเหล่านี้เมื่อเลือกใช้บริการกับเราแล้วก็จะอยู่กับเราไปอีกนานในระยะยาวไม่ค่อยเปลี่ยนผู้จัดการกองทุนบ่อยเหมือนบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทขนาดเล็กสามารถเข้ามาใช้กองทุนร่วม (Pooled Fund) ได้เลย ปัจจุบันรายได้กว่า 50% ก็มาจากกองทุนร่วมที่มีอยู่ในปัจจุบัน