กรุงไทยแอกซ่า คาดทั้งปีกำไร 1.5 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าปรับพอร์ตลงทุนใหม่รับพรบ.คุ้มครองเงินฝาก เน้นพันธบัตรรัฐบาล-หุ้นกู้มากขึ้น ขณะเดียวกันเล็งออกยูนิตลิ้งค์ใน 1 ปีสนองความต้องการลูกค้ารับความเสี่ยงได้
นายไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานกรรมการการบริหาร บริษัท กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างปรับพอร์ตการลงทุนใหม่ หลังจากพรบ.คุ้มครองเงินฝากมีผลบังคับใช้ทำให้ความเสี่ยงจากการฝากเงินเพิ่มมากขึ้น โดยเงินฝากบางส่วนจะนำมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้รวมกันเป็น 80% จากปัจจุบันลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 64% หุ้นกู้เอกชน 14%
โดยปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตการลงทุนรวมอยู่ที่ 43,389 ล้านบาท แบ่งเป็น พันธบัตรรัฐบาล 64% หุ้นกู้เอกชน14% หุ้นทุน 10% และอื่นๆ 12% ในขณะที่มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 45,800 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในครึ่งแรกของปีนี้บริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรก 3,100 ล้านบาทเติบโตขึ้น 3% และเบี้ยรับรวม 9,600 ล้านบาท เติบโต 17% โดยมีกำไรสุทธิ 793 ล้านบาท เติบโต 46% สำหรับกำไรทั้งปีก็เชื่อว่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาคือประมาณ 1,500 ล้านบาท
“เราสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ จนมีกำไรถึง 1,500 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งการที่ผลประกอบการที่ดีเนื่องมาจาก 3 ปัจจัย คือ มียอดขายใหม่เพิ่ม การลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดี และ มีการบริหารค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ และคาดว่าในปีนี้คงจะสามารถรักษากำไรสุทธิได้ในระดับเดิม”
นายไมค์ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงเวลาที่เหลือบริษัทไม่ได้กังวลเรื่องอะไร เพราะมีทีมงานที่แข็งแกร่ง และมีช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ยังเป็นช่องทางหลักของบริษัทในสัดส่วน 51% ช่องทางตัวแทน 43% ที่เหลือเป็นช่องทางอื่นๆ
ทั้งนี้ แผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการออกกรมธรรม์ควบการลงทุน หรือ ยูนิตลิ๊งค์ โดยคาดว่าจะสามารถออกได้ประมาณ อีก 1 ปีข้างหน้า ซึ่งกรมธรรม์ยูนิตลิ๊งค์ นั้นลูกค้าต้องยอมรับความเสี่ยงเองส่วนหนึ่งด้วย
ส่วนกรณีที่รัฐบาลใหม่ได้มีนโยบาย เพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท กับการเพิ่มฐานเงินเดือนระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมเพิ่ม ส่วนจะมีประชาชนหันมาทำประกันเพิ่มหรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่ก็ถือว่าเป็นทิศทางที่ดี สำหรับลูกค้าของบริษัท ณ ปัจจุบัน มีอยู่กว่า 1 ล้านราย ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งผู้ที่มีรายได้ต่ำ ไปถึงผู้มีรายได้สูง
นายไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานกรรมการการบริหาร บริษัท กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างปรับพอร์ตการลงทุนใหม่ หลังจากพรบ.คุ้มครองเงินฝากมีผลบังคับใช้ทำให้ความเสี่ยงจากการฝากเงินเพิ่มมากขึ้น โดยเงินฝากบางส่วนจะนำมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้รวมกันเป็น 80% จากปัจจุบันลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 64% หุ้นกู้เอกชน 14%
โดยปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตการลงทุนรวมอยู่ที่ 43,389 ล้านบาท แบ่งเป็น พันธบัตรรัฐบาล 64% หุ้นกู้เอกชน14% หุ้นทุน 10% และอื่นๆ 12% ในขณะที่มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 45,800 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในครึ่งแรกของปีนี้บริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรก 3,100 ล้านบาทเติบโตขึ้น 3% และเบี้ยรับรวม 9,600 ล้านบาท เติบโต 17% โดยมีกำไรสุทธิ 793 ล้านบาท เติบโต 46% สำหรับกำไรทั้งปีก็เชื่อว่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาคือประมาณ 1,500 ล้านบาท
“เราสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ จนมีกำไรถึง 1,500 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งการที่ผลประกอบการที่ดีเนื่องมาจาก 3 ปัจจัย คือ มียอดขายใหม่เพิ่ม การลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดี และ มีการบริหารค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ และคาดว่าในปีนี้คงจะสามารถรักษากำไรสุทธิได้ในระดับเดิม”
นายไมค์ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงเวลาที่เหลือบริษัทไม่ได้กังวลเรื่องอะไร เพราะมีทีมงานที่แข็งแกร่ง และมีช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ยังเป็นช่องทางหลักของบริษัทในสัดส่วน 51% ช่องทางตัวแทน 43% ที่เหลือเป็นช่องทางอื่นๆ
ทั้งนี้ แผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการออกกรมธรรม์ควบการลงทุน หรือ ยูนิตลิ๊งค์ โดยคาดว่าจะสามารถออกได้ประมาณ อีก 1 ปีข้างหน้า ซึ่งกรมธรรม์ยูนิตลิ๊งค์ นั้นลูกค้าต้องยอมรับความเสี่ยงเองส่วนหนึ่งด้วย
ส่วนกรณีที่รัฐบาลใหม่ได้มีนโยบาย เพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท กับการเพิ่มฐานเงินเดือนระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมเพิ่ม ส่วนจะมีประชาชนหันมาทำประกันเพิ่มหรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่ก็ถือว่าเป็นทิศทางที่ดี สำหรับลูกค้าของบริษัท ณ ปัจจุบัน มีอยู่กว่า 1 ล้านราย ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งผู้ที่มีรายได้ต่ำ ไปถึงผู้มีรายได้สูง
