xs
xsm
sm
md
lg

ฟิทช์คงอันดับ"เมืองไทยประกันชีวิต" ผู้ถือหุ้นแกร่งผลงานขยายตัวต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฟิทช์ คงอันดับเมืองไทยประกันชีวิต BBB+ แนวโน้มความแข็งแกร่งในประเทศเป็นบวก เหตุผู้ถือหุ้นแกร่ง ผลงานปีที่ผ่านมาขยายตัวตามคาด ระบุความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศอาจปรับขึ้นหรือลดลงได้ แต่ต้องดูแนวโน้มการเติบโต และส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในอนาคต

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีความเห็นในการคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Insurer Financial Strength (IFS)) ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (MTL) ที่ ‘BBB+’และแนวโน้มมีเสถียรภาพ ส่วนอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ที่ ‘AA(tha)’โดยแนวโน้มเป็นบวก

ทั้งนี้ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจ และสถานะทางการตลาดของบริษัทดังกล่าว รวมทั้งความสามารถในการทำกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และระดับเงินกองทุนที่มั่นคง

นอกจากนี้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังคำนึงถึงการให้การสนับสนุนด้านการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องของผู้ถือหุ้นของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ซึ่งได้แก่ Ageas Insurance International N.V. (Ageas) และ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ เป็นผลให้รายได้ซึ่งโดยหลักประกอบด้วยเบี้ยประกันภัยและรายได้จากการลงทุน รวมทั้งผลกำไรมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2553 และในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 ซึ่งเป็นไปตามที่ฟิทช์คาดการณ์
โดยอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS rating) อาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้น 1 อันดับ ได้แก่เครือข่ายในการดำเนินธุรกิจและสถานะทางการตลาดที่มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะปานกลาง โดยดูจากส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การรักษาเงินกองทุนและความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในทางกลับกัน อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศอาจได้รับการปรับลดลง โดยอาจเกิดจากการที่สถานะเงินกองทุนของบริษัทปรับตัวอ่อนแอลงอย่างมาก โดยมีระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมายภายในประเทศลดลงต่ำกว่า 480% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง

นอกจากนี้หากส่วนแบ่งทางการตลาดมีการปรับตัวลดลงและความสามารถในการทำกำไรลดน้อยลงเนื่องจากการใช้กลยุทธ์ในการเติบโตในเชิงรุก อาจทำให้เกิดผลในทางลบต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศของบริษัทได้ด้วยเช่นกัน

สำหรับรายได้ของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตในปี 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท และในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 รายได้ปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 25% มาอยู่ที่ 9.5 พันล้านบาท อัตราส่วนกำไรสุทธิต่อสินทรัพย์รวมเฉลี่ยยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 2.8% ในปี 2553 เทียบกับ 2.9% ในปี 2552

ขณะที่ ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 ปรับตัวดีขึ้น โดยมีอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อสินทรัพย์รวมเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 3.1% ฟิทช์คาดว่าการเติบโตของรายได้จะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องในปี 2554 เนื่องจากกลยุทธ์ในการให้บริการผ่านช่องทางที่หลากหลาย ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากการขายประกันผ่านเครือข่ายสาขาของ KBANK และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่จะทำให้อัตราการเติบโตของรายได้จากเบี้ยประกันภัยปรับตัวลดลง อาจเกิดจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุนอื่นๆ

ส่วนระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมายภายในประเทศ ของเมืองไทยประกันชีวิต มีความแข็งแกร่ง โดยระดับเงินกองทุน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 อยู่ที่ 899% เทียบกับ 877% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 ขณะเดียวกันระดับเงินกองทุนของบริษัทตามมาตรฐานของยุโรปซึ่งเป็นมาตรฐานที่กลุ่มบริษัท Ageas ใช้ อยู่ในระดับที่สูงเช่นกันที่ 285% เทียบกับ 281% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 ขณะเดียวกันบริษัทยังคงดำเนินกลยุทธ์ในการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยสินทรัพย์ประเภทผลตอบแทนคงที่มีสัดส่วนประมาณ 80% ของสินทรัพย์ลงทุนรวม ส่วนการลงทุนในตราสารทุนและตราสารสกุลเงินต่างประเทศ ยังมีสัดส่วนที่ไม่สูงนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น