พรูเด็นเชียลประกันชีวิต เชื่อภาพรวมธุรกิจประกันในประเทศไทยสดใส การเมืองไม่ส่งผลกระทบ เหตุสัดส่วนคนไทยถือกรมธรรม์ยังน้อย ตั้งเป้าเพิ่มตัวแทนจำหน่ายหลังเป็นผู้นำด้านการขายผ่านโทรทัศน์ ขณะเดียวกันเร่งพัฒนสินค้าหวังตอบโจทย์ทุกความต้องของลูกค้า เล็งส่งยูนิตลิ้งค์ประกันชีวิตพร้อลงทุนชิมลางปีนี้ ส่วนล่าสุดส่งกรมธรรม์พิเศษ คุ้มครองชีวิตและสุขภาพในฉบับเดียวทำตลาด
นายบินายัค คัตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัทพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยต่อจากนี้คงจะมีทิศทางที่ดี หลังจากในช่วงที่ผ่านมาเติบโตเป็นตัวเลขระดับ 2 หลัก โดยการเมืองคงจะไม่สงผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากอัตราการถือกรมธรรม์ของคนไทยยังอยู่ในระดับต่ำ และบางส่วนที่มีกรมธรรม์อยู่แล้วยังต้องการความต้องการความคุ้มครองในรูปแบบอื่นเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทเชื่อว่าน่าจะมีการเติบโตได้อย่างดีเช่นกัน หลังจากในปี 2553 เบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตถึง 24% ที่ 3.6 พันล้านบาท และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้น 34.3% อยู่ที่ 9.2 พันล้านบาท ส่วนไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทเองยังเติบโตถึง 18% และเป็นการเติบโตในทุกช่องทางการจำหน่าย ซึ่งหลังจากนี้คงจะรักษาระดับการเติบโตเอาไว้ได้จนถึงสิ้นปี
ส่วนการขยายช่องทางการจำหน่ายหลังจากนี้ บริษัทจะเน้นเพิ่มสัดส่วนของตัวแทนให้มากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้เป็นผู้นำในด้านการขายผ่านทางโทรศัพท์(เทเลมาร์เก็ตติ่ง) โดยหลังจากนี้มีการตั้งเป้าเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเป็น 2 เท่าจากเดิมที่มีอยู่แล้วประมาณ 2 พันกว่าคน นอกจากนี้ยังเตรียมหาพันธมิตรเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น หลังจากเมื่อปีที่ผ่านบริษัทประสบความสำเร็จกับการร่วมมือกับธนาคารยูโอบี
"ธุรกิจประกันชีวิตคงจะอยู่ในแนวโน้มที่ดี หลังจากนี้แต่ละบริษัทคงต้องมีการพัฒนาสินค้าใหม่ ซึ่งเราก็เช่นกัน ส่วนช่องทางการจำหน่ายแม้เราจะเป็นผู้นำด้านเทเล แต่ที่ผ่านมาคปภ.คอนข้างเข้มงวดแต่บริษัทก็ยังอยู่ในกฎ ซึ่งหลังจากนี้ถึงแม้เราจะเพิ่มตัวแทนแต่เราก็ไม่ละถึงช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งที่เรามีการวางรากฐานและพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องมาตลอด"นายบินายัคกล่าว
นายบินายัค กล่าวอีกว่า ในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์บริษัทเตรียมที่จะทำการออกสินค้าประเภทยูนิตลิ้งค์ ซึ่งเป็นการประกันชีวิตพร้อมกับการลงทุน โดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการอนุมัติจากคณะกรรมกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และหากได้รับอนุมัติก็สามารถทำการเปิดขายได้ทันที เนื่องจากบริษัทเตรียมความพร้อมรองรับเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทได้ทำการออกสินค้าใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นผู้นำของธุรกิจประภันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพในกรมธรรม์เดียว
สำหรับจุดเด่นของกรมธรรม์นี้ประกอบด้วย การจ่ายเบี้ยประกันภัยอัตราเดียวตลอดอายุสัญญา การรับประกันการต่ออายุสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพตลาดสัญญาจนถึงอายุ 80 ปี สามารถเบิกจ่ายเพิ่มเติมจากสิทธิค่ารักษาพยาบาลอื่นที่มีอยู่ และการจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย รวมถึงการคุ้มครองชีวิตและสุขภาพในกรมธรรม์เดียว พร้อมกับมีเงินออมไว้ใช้ยามชรา นอกจากนี้เบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิตยังสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ไม่ปรับสัดส่วนการลงทุน
ด้านนาย จอห์น ไมเคิล แฟลนเดอร์ส ผู้อำนวยการบริหารการเงิน บมจ.พรูเด็นเชียล เปิดเผยว่า ในด้านการลงทุนปัจจุบันพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่ของบริษัทจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 80% ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนในหุ้นกู้ประมาณ 15% และการลงทุนในหุ้นอีก 3% ส่วนอีก 2% จะเป็นการถือเงินสด
ทั้งนี้ ในส่วนของการลงทุนบริษัทมีความเข้มงวด ซึ่งในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยมีการปรับตัวขึ้นคงไม่ส่งผลกับผลตอบแทนของบริษัทมากนักเพราะส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในพันธบัตรระยะยาว ส่วนการลงทุนในหุ้นขณะนี้บริษัทยังไม่มีนโยบายปรับสัดส่วนแต่อย่างใด
นายบินายัค คัตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัทพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยต่อจากนี้คงจะมีทิศทางที่ดี หลังจากในช่วงที่ผ่านมาเติบโตเป็นตัวเลขระดับ 2 หลัก โดยการเมืองคงจะไม่สงผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากอัตราการถือกรมธรรม์ของคนไทยยังอยู่ในระดับต่ำ และบางส่วนที่มีกรมธรรม์อยู่แล้วยังต้องการความต้องการความคุ้มครองในรูปแบบอื่นเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทเชื่อว่าน่าจะมีการเติบโตได้อย่างดีเช่นกัน หลังจากในปี 2553 เบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตถึง 24% ที่ 3.6 พันล้านบาท และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้น 34.3% อยู่ที่ 9.2 พันล้านบาท ส่วนไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทเองยังเติบโตถึง 18% และเป็นการเติบโตในทุกช่องทางการจำหน่าย ซึ่งหลังจากนี้คงจะรักษาระดับการเติบโตเอาไว้ได้จนถึงสิ้นปี
ส่วนการขยายช่องทางการจำหน่ายหลังจากนี้ บริษัทจะเน้นเพิ่มสัดส่วนของตัวแทนให้มากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้เป็นผู้นำในด้านการขายผ่านทางโทรศัพท์(เทเลมาร์เก็ตติ่ง) โดยหลังจากนี้มีการตั้งเป้าเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเป็น 2 เท่าจากเดิมที่มีอยู่แล้วประมาณ 2 พันกว่าคน นอกจากนี้ยังเตรียมหาพันธมิตรเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น หลังจากเมื่อปีที่ผ่านบริษัทประสบความสำเร็จกับการร่วมมือกับธนาคารยูโอบี
"ธุรกิจประกันชีวิตคงจะอยู่ในแนวโน้มที่ดี หลังจากนี้แต่ละบริษัทคงต้องมีการพัฒนาสินค้าใหม่ ซึ่งเราก็เช่นกัน ส่วนช่องทางการจำหน่ายแม้เราจะเป็นผู้นำด้านเทเล แต่ที่ผ่านมาคปภ.คอนข้างเข้มงวดแต่บริษัทก็ยังอยู่ในกฎ ซึ่งหลังจากนี้ถึงแม้เราจะเพิ่มตัวแทนแต่เราก็ไม่ละถึงช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งที่เรามีการวางรากฐานและพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องมาตลอด"นายบินายัคกล่าว
นายบินายัค กล่าวอีกว่า ในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์บริษัทเตรียมที่จะทำการออกสินค้าประเภทยูนิตลิ้งค์ ซึ่งเป็นการประกันชีวิตพร้อมกับการลงทุน โดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการอนุมัติจากคณะกรรมกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และหากได้รับอนุมัติก็สามารถทำการเปิดขายได้ทันที เนื่องจากบริษัทเตรียมความพร้อมรองรับเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทได้ทำการออกสินค้าใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นผู้นำของธุรกิจประภันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพในกรมธรรม์เดียว
สำหรับจุดเด่นของกรมธรรม์นี้ประกอบด้วย การจ่ายเบี้ยประกันภัยอัตราเดียวตลอดอายุสัญญา การรับประกันการต่ออายุสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพตลาดสัญญาจนถึงอายุ 80 ปี สามารถเบิกจ่ายเพิ่มเติมจากสิทธิค่ารักษาพยาบาลอื่นที่มีอยู่ และการจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย รวมถึงการคุ้มครองชีวิตและสุขภาพในกรมธรรม์เดียว พร้อมกับมีเงินออมไว้ใช้ยามชรา นอกจากนี้เบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิตยังสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ไม่ปรับสัดส่วนการลงทุน
ด้านนาย จอห์น ไมเคิล แฟลนเดอร์ส ผู้อำนวยการบริหารการเงิน บมจ.พรูเด็นเชียล เปิดเผยว่า ในด้านการลงทุนปัจจุบันพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่ของบริษัทจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 80% ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนในหุ้นกู้ประมาณ 15% และการลงทุนในหุ้นอีก 3% ส่วนอีก 2% จะเป็นการถือเงินสด
ทั้งนี้ ในส่วนของการลงทุนบริษัทมีความเข้มงวด ซึ่งในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยมีการปรับตัวขึ้นคงไม่ส่งผลกับผลตอบแทนของบริษัทมากนักเพราะส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในพันธบัตรระยะยาว ส่วนการลงทุนในหุ้นขณะนี้บริษัทยังไม่มีนโยบายปรับสัดส่วนแต่อย่างใด
