ศูนย์ข่าวศรีราชา - คปภ.จัดแถลงข่าวการประกันภัยกับทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางท้องถนน ดำเนินการจัดทำมาตรฐานระบบสินไหมทดแทนอัตโนมัติ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับผู้ประสบภัยในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้เต็มวงเงินคุ้มครองตามที่จ่ายจริง โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความถูกผิด
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายพรชัย ขวัญสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุมแถลงข่าวการประกันภัยกับทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางท้องถนน โดยมีภาคธุรกิจประกันภัยและหน่วยกู้ภัยมาร่วมประชุมกันเป็นจำนวนมาก ณ ห้องพระพิพิธโภไคย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี
นายพรชัย ขวัญสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จากสถิติโลกพบว่า มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางท้องถนน ปีละ 1.3 ล้านคน และบาดเจ็บกว่า 50 ล้านคน องค์การสหประชาชาติเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกดำเนินการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนของโลก ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติโดยคณะรัฐมนตรีมีมติให้ปี พ.ศ.2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน เป็นวารแห่งชาติเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล สำนักงาน คปภ.ในฐานะหน่วยงานกับดูแลธุรกิจประกันภัยมีความห่วงใยและตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชน ได้จัดโครงการ ประกันภัยกับทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางท้องถนน แบบบูรณาการเพื่อสอดคล้องกับวาระแห่งชาติ
โดยโครงการดังกล่าว ดำเนินการเผยแพร่ความรู้ด้านการประกันภัยรถไปสู่ภูมิภาคทั้งประเทศ ควบคู่ไปกับการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชน ทำประกันภัย ใส่หมวกกันน็อก เนื่องจากการประกันภัย และหมวกกันน็อก ถือเป็นเครื่องมือในการป้องกันและบรรเทาความสูญเสียของผู้ประสบภัยได้ ประกอบกับการดำเนินการจัดทำมาตรฐานระบบสินไหมทดแทนอัตโนมัติ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับผู้ประสบภัยในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้เต็มวงเงินคุ้มครองตามที่จ่ายจริง โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความถูกผิด
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ.ได้ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัยปรับสิทธิประโยชน์ของการประกันภัยรถภาคสมัครใจ โดยเพิ่มค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพ และจัดมาตรฐานราคาอ้างอิงค่าซ่อมรถ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน เพื่อสิทธิประโยชน์และบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนได้มาขึ้น สำนักงาน คปภ.ได้หารือภาคธุรกิจประกันภัย และได้กำหนดแนวทางวิธีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ประชาชน กรณีเสียชีวิตหรือพุทพลภาพถาวรให้ได้รับคามเป็นธรรมมากขึ้น
โดยได้ข้อสรุปให้มีการแก้ไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินใหม่ทดแทนขั้นต่ำเพิ่มขึ้นแก่ทายาทผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย และผู้เสียหายที่ทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุรถยนต์เพิ่มขึ้นจาก 1 แสนบานเป็น 3 แสนบาท เมือรวมกับการประกันภัย พ.ร.บ.บริษัทประกันภัยต้องชดให้ชความเสียหายต่อชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรขึ้นต่ำรายละ 5 แสนบาท
นายพรชัย ขวัญสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า สำนักงาน คปภ.มีการปรับปรุงเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยกำหนดให้บริษัทประกันภัยจ่างค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ขาดไร้อุปการระตามกฎหมายขั้นต่ำ เพื่อขึ้นจาก 1 แสนบาทเป็น 3 แสนบาท ส่วนผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บจนถึงกับทุพพลภาพถาวรนั้น ให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนไม่น้อยกว่า 3 แสนบาท จากเดิมที่กำหนดไว้เพียง 1 แสนบาทด้วยเช่นกัน โดยในส่วนของปรับประกันภัยนั้นจะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สำหรับกรมธรรม์ที่เริ่มให้ความคุ้งครองตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป และขณะนี้อยู่ในระหว่างเร่งคำสั่งและประกาศนายทะเบียน เกี่ยวกับแบบ ข้อคามและอัตราเบี้ยประกันภัยของการประกันชีวิต จำนวน 3 ประเภท คือ อุบัติเหตุสำหรับรายย่อย แบบ สุขภาพชดเชยรายวัน สำหรับรายย่อย และการประกันชีวิต ประเภทสามัญ แบบสะสมทรัพย์และแบบชั่วระยะเวลา
สำหรับรายย่อย เพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้นับถือศาสนาอิสลามสามารถเข้าถึงระบบการประกันภัยได้อย่างทั่วถึง และการปรับอัตรามรณะเดิมปี 2540 เป็นอัตรามรณะปี 2551 เพื่อใช้กำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยให้สอดคล้องกันสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นประโยชน์แก่ประชาชนมาขึ้น เดิมการคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัยและมูลค่าต่างๆ ของบริษัทประกันชีวิตจะใช้อัตรามรณะไทย ปี 2540 ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
ดังนั้น เพื่อให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตมีตารางมรณะสำหรับใช้ในการคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เหมาะสมกับปัจจุบัน สำนักงาน คปภ.มีคำสั่งให้นายทะเบียน เรื่องการเปลี่ยนแปลงอัตราเบี้ยประกันภัย โดยกำหนดให้ใช้ตารางมรณะไทย ปี 2551 แยกเพศ ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กรกฎาคม 2554
ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทประกันชีวิตมีระยะเวลาเพียงพอสำหรับการยื่นขอเปลี่ยนอันตราเบี้ยประกันภัยใหม่ต่อนายทะเบียน และเตรียมความพร้อมด้านระบบการดำเนินงานภายในรวมถึงทดสอบระบบการขายผ่านช่องทางต่างๆ สำนักงาน คปภ.ได้ขยายระยะเวลาการมีผลบังคับใช้เป็นวันที่ 1 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
สำนักงาน คปภ.ได้จับมือภาคธุรกิจประกันภัย และสมาคมอู่กลางการประกันภัย ปรับปรุงระบบการตรวจสอบ และคัดเลือกอู่กลางการประกันภัย โดยเร่งจัดทำมาตรฐานราคาอ้างอิงค่าซ่อมรถเพื่อหาราคากลางที่เหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพและพัฒนางานบริการการซ่องรถให้มีมาตรฐานดียิ่งขึ้น ต่อไป
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทประกันภัย สำนักงาน คปภ. ได้เพิ่มช่องทางด่วนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทขึ้นหากข้อพิพาทยังไม่อาจยุติได้ และนำไปสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ สำนักงาน คปภ.ได้มีกระบวนการประนอมข้อพิพาทก่อนการตั้งอนุญาโตตุลาการ เพื่อให้ข้อพิพาทยุติได้อย่างรวดเร็วผู้เอาประกันภัยได้รับความสะดวก ประหยัด และเป็นธรรม
ดังนั้น หากประชาชนท่านใดไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการประกันภัย สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงาน คปภ.ทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186