บลจ.กสิกรไทย เชื่อมั่นเศรษฐกิจแดนภาระตะแข็งแกร่ง เข็นกองทุน "เค สมาร์ท ซีแอลเอ็น 1 ปี เอ" ลงทุนใน Credit Linked Notes อิงกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐวิสาหกิจอินเดีย 5 แห่ง เสนอขายถึง 19 กันยายนนี้ ชูโอกาสรับผลตอบแทน 4.80%
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เรายังคงเชื่อมั่นในภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศอินเดียซึ่งมีความแข็งแกร่ง และคาดว่าจะขยายตัวได้ดีแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความเปราะบาง เนื่องจากอินเดียยังคงเน้นการเติบโตโดยพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศ เห็นได้ชัดจากสัดส่วนการบริโภคในประเทศที่สูงถึง 60% ของมูลค่าจีดีพีโดยประมาณ ด้วยเหตุดังกล่าวอินเดียจึงได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกาค่อนข้างน้อย คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจของประเทศอินเดียจะขยายตัว 7%-8% ในขณะที่นักวิเคราะห์ทั่วโลกคาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกขยายตัวเพียง 3.5% ส่วนในด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอินเดียนั้น ได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 โดยที่ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอินเดีย 1 ปี ณ เดือนกันยายน 2554 อยู่ที่ประมาณ 8% ในสกุลเงินรูปี ได้ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ของอินเดียเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ขั้นตอนการเข้าไปลงทุนยังคงเป็นเรื่องยุ่งยากและวงเงินลงทุนยังถูกจำกัดโดยรัฐบาล จึงเป็นการยากที่จะลงทุนในตราสารหนี้อินเดียโดยตรง
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกที่ให้ประโยชน์กับผู้ลงทุน ทั้งในแง่โอกาสลงทุนกับตราสารหนี้อินเดีย และโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง บลจ.กสิกรไทย จึงเตรียมเสนอขายกลุ่มกองทุนใหม่ คือ กองทุนเปิดเค สมาร์ท ซีแอลเอ็น 1 ปี เอ ในวันที่ 13-19 กันยายน นี้ โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนใน “Credit Linked Notes (CLN)” ซึ่งเป็นตราสารที่ออกโดยธนาคารระดับโลกที่มีฐานะทางการเงินมั่นคงและมีอันดับความน่าเชื่อถือสูงในระดับ A- ขึ้นไป ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวจะอ้างอิงกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐวิสาหกิจอินเดีย 5 แห่ง ได้แก่ Export Import Bank of India, State Bank of India, Power Finance Corporation Limited, Rural Electrification Corporation Limited, และ Indian Oil Corporation Limited โดยมีรัฐบาลถือหุ้นใหญ่เกินกว่า 60% และมีความน่าเชื่อถือของทุกองค์กรอยู่ที่ระดับ BBB- เทียบเท่ากับประเทศอินเดียเอง
นางสาวยุพาวดีกล่าวว่า การลงทุนใน CLN นี้ เทียบได้กับการลงทุนในหุ้นกู้ของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่งของอินเดียทางอ้อม โดยกองทุนจะได้รับเงินต้นและผลตอบแทน ตราบเท่าที่รัฐวิสาหกิจอินเดียที่อ้างอิง รวมถึงสถาบันการเงินที่ออกตราสาร สามารถชำระเงินต้นและผลตอบแทนของตราสารตรงตามกำหนด
สำหรับกองทุนเปิดเค สมาร์ท ซีแอลเอ็น 1 ปี เอ (KSCLN1YA) มีขนาดกองทุน 3,100 ล้านบาท ประมาณการโอกาสรับผลตอบแทนหลังจากหักค่าใช้จ่ายกองทุน เท่ากับ 4.80% ต่อปี
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เรายังคงเชื่อมั่นในภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศอินเดียซึ่งมีความแข็งแกร่ง และคาดว่าจะขยายตัวได้ดีแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความเปราะบาง เนื่องจากอินเดียยังคงเน้นการเติบโตโดยพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศ เห็นได้ชัดจากสัดส่วนการบริโภคในประเทศที่สูงถึง 60% ของมูลค่าจีดีพีโดยประมาณ ด้วยเหตุดังกล่าวอินเดียจึงได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกาค่อนข้างน้อย คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจของประเทศอินเดียจะขยายตัว 7%-8% ในขณะที่นักวิเคราะห์ทั่วโลกคาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกขยายตัวเพียง 3.5% ส่วนในด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอินเดียนั้น ได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 โดยที่ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอินเดีย 1 ปี ณ เดือนกันยายน 2554 อยู่ที่ประมาณ 8% ในสกุลเงินรูปี ได้ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ของอินเดียเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ขั้นตอนการเข้าไปลงทุนยังคงเป็นเรื่องยุ่งยากและวงเงินลงทุนยังถูกจำกัดโดยรัฐบาล จึงเป็นการยากที่จะลงทุนในตราสารหนี้อินเดียโดยตรง
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกที่ให้ประโยชน์กับผู้ลงทุน ทั้งในแง่โอกาสลงทุนกับตราสารหนี้อินเดีย และโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง บลจ.กสิกรไทย จึงเตรียมเสนอขายกลุ่มกองทุนใหม่ คือ กองทุนเปิดเค สมาร์ท ซีแอลเอ็น 1 ปี เอ ในวันที่ 13-19 กันยายน นี้ โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนใน “Credit Linked Notes (CLN)” ซึ่งเป็นตราสารที่ออกโดยธนาคารระดับโลกที่มีฐานะทางการเงินมั่นคงและมีอันดับความน่าเชื่อถือสูงในระดับ A- ขึ้นไป ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวจะอ้างอิงกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐวิสาหกิจอินเดีย 5 แห่ง ได้แก่ Export Import Bank of India, State Bank of India, Power Finance Corporation Limited, Rural Electrification Corporation Limited, และ Indian Oil Corporation Limited โดยมีรัฐบาลถือหุ้นใหญ่เกินกว่า 60% และมีความน่าเชื่อถือของทุกองค์กรอยู่ที่ระดับ BBB- เทียบเท่ากับประเทศอินเดียเอง
นางสาวยุพาวดีกล่าวว่า การลงทุนใน CLN นี้ เทียบได้กับการลงทุนในหุ้นกู้ของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่งของอินเดียทางอ้อม โดยกองทุนจะได้รับเงินต้นและผลตอบแทน ตราบเท่าที่รัฐวิสาหกิจอินเดียที่อ้างอิง รวมถึงสถาบันการเงินที่ออกตราสาร สามารถชำระเงินต้นและผลตอบแทนของตราสารตรงตามกำหนด
สำหรับกองทุนเปิดเค สมาร์ท ซีแอลเอ็น 1 ปี เอ (KSCLN1YA) มีขนาดกองทุน 3,100 ล้านบาท ประมาณการโอกาสรับผลตอบแทนหลังจากหักค่าใช้จ่ายกองทุน เท่ากับ 4.80% ต่อปี