ทาร์เก็ตฟันด์เข้าเป้ารับหุ้นวิ่ง นักลงทุนยิ้มรับผลตอบแทน

อานิสงส์หุ้นวิ่ง หนุนกองทุนทาร์เก็ตฟันด์เข้าเป้า ล่าสุด ยูโอบี โชว์ "ซุปเปอร์ สไตรค์ 5" ผลตอบแทนถึงเป้า ใช้เวลาเพียง 1 เดือน 27 วัน "วนา" ระบุ ได้ปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจที่โตต่อเนื่องและกลยุทธ์การเลือกหุ้นที่เหมาะสม จ่อเข็นกองใหม่รับดีมานด์ต่อ ด้านเอ็มเอฟซี ไม่น้อยหน้า อวด 2 กองทุน เข้าเป้าช่นกัน ผู้ถือหน่วยยิ้มรับผลตอบแทนถ้วนหน้า

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า นับเป็นกองทุนที่ 5 ที่ประสบความสำเร็จสำหรับกองทุนในลักษณะนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือความเชี่ยวชาญของทีมผู้จัดการกองทุน บลจ.ยูโอบี ที่มีกลยุทธ์และขั้นตอนการคัดเลือกหุ้นที่เหมาะสม

ทั้งนี้กองทุนเปิด ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 5 (UOBSS5) เป็นกองทุนที่มีการกำหนดเป้าหมายและโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ชัดเจน โดยเริ่มลงทุนตั้งแต่ต้นเดือน มิถุนายน 2554 เป็นต้นมา ซึ่งมีมุมมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ตลาดหุ้นจะมีการปรับฐานลงไป ทำให้สามารถสร้างโอกาสของการลงทุนได้มากขึ้นก่อนที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวขึ้นไป

นอกจากนี้เรายังมีวิธีการคัดเลือกหุ้นโดยพิจารณาจากหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีราคาที่เหมาะสม และปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนได้ตามความเหมาะสมของภาวะตลาดในช่วงเวลานั้นๆ และเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นตัวสนับสนุน ซึ่งส่งผลให้กองทุนนี้ได้รับผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน 27 วัน จากที่กำหนดไว้ 1 ปี และสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้มากกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลาเดียวกัน

สำหรับในมุมมองด้านเศรษฐกิจคาดการณ์ว่าในปี 2554 ตัวเลขผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะอยู่ที่ 4-5% มีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภาคเอกชน สภาพคล่องในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูงที่พร้อมจะกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งหนึ่ง โดยจะยังคงเข้าตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทย การเมืองภายในประเทศที่มีเสถียรภาพ รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ เติบโตได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ แต่ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยภายนอกประเทศที่ยังคงต้องติดตามคือ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ และปัญหาหนี้ในภูมิภาคยุโรป ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะทำให้ตลาดหุ้นในช่วงครึ่งปีหลังนั้นมีความผันผวนบ้าง ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับการเข้าลงทุนของกองทุนลักษณะนี้

“สำหรับแผนการเปิดกองทุนต่อไปนั้น เรายังคงติดตามภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนให้กับนักลงทุนในโอกาสต่อๆไป เพื่อเป็นโอกาสสำหรับท่านที่ต้องการลงทุนเพิ่มเติม หรือสนใจจะลงทุนในกองทุนรวมที่มีลักษณะดังกล่าว และต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ได้ให้ความไว้วางใจเลือกลงทุนในกองทุนรวมของเราเสมอมา" นายวนา พูลผล กล่าว

ด้านนางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีในฐานะผู้บุกเบิกกองทุนทาร์เก็ตฟันด์มานานกว่า 10 ปี ซึ่งได้สร้างผลงานในการบริหารกองทุนได้ตามเป้าหมายผลตอบแทนถึง 21 กองทุน และต้นปีนี้ เอ็มเอฟซีได้ประสบความสำเร็จจากกองทุนเปิด I-Emerging 10 ที่ลงทุนหุ้นของตลาดเกิดใหม่ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับเงินคืนหน่วยลงทุนละประมาณ 11.2945 บาท หรือร้อยละ 12.94 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายผลตอบแทนที่ตั้งไว้ร้อยละ 10 และล่าสุดได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 7 ซีรี่ส์ 2 (SPOT 7S2) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล โกลด์ สปอท 7 (I-GOLD 7) ซึ่งทั้งสองกองทุนมีผลงานเป็นไปตามเป้าหมายร้อยละ 7 เช่นกัน โดยใช้เวลาในการบริหารกองทุนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งกองทุนเปิด SPOT 7S2 ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน 6 วันจากที่กำหนดไว้ 7 เดือน และกองทุนเปิด I-GOLD 7 ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน 23 วันจากที่กำหนดไว้ 10 เดือน

ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนได้บริหารกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ทั้งสองกองทุนแบบ Active เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งกองทุนเปิด SPOT 7S2 ได้ใช้กลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นเพื่อลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนทั้งในตราสารทุนและตราสารหนี้ตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที และกองทุนเปิด I-GOLD7 ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมทองคำต่างประเทศ (ETF) ได้มีการคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำที่จะเติบโตขึ้นเพราะปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้ามาลงทุนเพื่อป้องกันสินทรัพย์มูลค่าลดลง

สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนของแต่ละกองทุนดังกล่าว จะได้รับผลตอบแทนคืนร้อยละ 7 หรือประมาณ 10.70 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยเอ็มเอฟซีจะสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีพันธบัตรตลาดเงิน (MM-GOV)

กรรมการผู้จัดการกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้เอ็มเอฟซีอยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สเปเชี่ยล โน้ต 5 เดือน (MSN 5M) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุประมาณ 5 เดือน โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 3-5 สิงหาคมนี้ กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจ นิติบุคคลเฉพาะ ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารต่างประเทศ หรือตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note) ที่เป็น Credit Linked Note ของสถาบันการเงินที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedge)