xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.มองหุ้นไทยไต่ระดับต่อ ส่งทาร์เก็ตฟันด์ดักทำกำไรเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วนา พูลผล
บลจ. ยูโอบี สบจังหวะช่วงหุ้นไทยราคาไม่แพง ออกทาร์เก็ต ฟันด์ "ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 5" (UOBSS5) อายุ 1 ปี ตั้งเป้าเอ็นเอวีแตะ 10.85 บาทติดต่อกัน 3 วันเลิกกองทันที ขณะที่บลจ.อยุธยาส่ง "กรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 7" ตั้งNAVแตะ 11.11 บาทต่อหน่วยปิดกองเช่นกัน เปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พ.ค. นี้

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ. ยูโอบี (ไทย) จำกัด กล่าวถึงตลาดหุ้นไทยว่า จากสภาพคล่องในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูงและพร้อมที่จะกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าในช่วงนี้ตลาดจะมีความผันผวนจากความกังวลในปัญหาหนี้ของกลุ่มประเทศยุโรป และการฟื้นตัวระยะสั้นของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ

แต่ตราบใดที่สภาพคล่องในตลาดโลกยังคงสูงอยู่ และการเติบโตของเศรษฐกิจและผลตอบแทนดอกเบี้ยในเอเชียยังคงสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว จึงเชื่อว่าสภาพคล่องจะยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป ส่งผลให้ทิศทางค่าเงินเอเชีย (รวมถึงค่าเงินบาท) ยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในระยะกลาง - ยาว ขณะเดียวกันสภาพคล่องในประเทศไทยยังอยู่ในระดับสูง นักลงทุนในประเทศมีโอกาสที่จะซื้อหุ้นกลับหลังจากที่ขายสุทธิอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีและในช่วงปลายปีแรงซื้อจากกองทุนประหยัดภาษีจะช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นไทยได้

โดยหากพิจารณาตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี 2554 เป็นต้นมา จะพบว่าภาพรวมเศรษฐกิจยังคงเติบโตได้ในระดับที่ดี ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ เติบโตได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ มีการปรับเพิ่มการคาดการณ์มาโดยตลอด ซึ่งในช่วงต้นปีนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในปี 2554 บริษัทจดทะเบียนจะมีผลกำไรเติบโตโดยเฉลี่ยร้อยละ 13 แต่ ณ ปัจจุบัน (เดือนพ.ค.) ปรับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20

“ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง เมื่อเทียบกับโอกาสในการเติบโตของผลกำไร ณ ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยซื้อขายที่สัดส่วนราคาต่อกำไร (PE ratio) 12 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ 12.6 เท่า แต่ตลาดหุ้นไทยมีการเติบโตของผลกำไร (ร้อยละ 20) ซึ่งสูงกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคโดยเฉลี่ย (ร้อยละ 17) และในอดีตสัดส่วนราคาต่อกำไรของตลาดหุ้นไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 14 เท่า ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายที่เราคาดหวังว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นไปถึงได้ภายในสิ้นปีนี้” นายวนา กล่าว

ทั้งนี้หลังจากที่ บลจ.ยูโอบี ได้ออกกองทุนประเภท ทาร์เก็ต ฟันด์ และประสบความสำเร็จมาแล้ว 4 กองทุน ดังนั้น บริษัท จึงได้ออกกองทุนเปิด ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 5 (UOBSS5) เพื่อนำเสนอให้กับผู้ลงทุนอีกครั้ง โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกและครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 25-31 พ.ค. นี้ ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีการกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนที่ชัดเจน และผู้จัดการกองทุนสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยกองทุนนี้จะลงทุนในตราสารทุนที่มีแนวโน้มหรือปัจจัยพื้นฐานดี ทั้งนี้เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน และคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเป็นสำคัญ กองทุนมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี และบลจ.จะทำการเลิกกองทุนก่อนครบกำหนดอายุกองทุน หากภายในช่วงอายุโครงการ 1 ปี นับจากวันจดทะเบียน มูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.85 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน และ ในวันทำการถัดไป (ซึ่งจะต้องไม่เกิน 1 ปี นับจากวันจดทะเบียน) มูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.70 บาทต่อหน่วย และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสด หรือเงินฝากทั้งหมด

ขณะที่นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปิดการเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 6 (KFEQ10-6) ในวันที่สองหลังมียอดซื้อหน่วยลงทุนเต็มมูลค่าโครงการอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกันกับกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 5 (KFEQ10-5) ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้เปิดการเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 7 (KFEQ10-7) ต่อทันทีในระหว่างวันที่ 25-31 พฤษภาคม 2554เพื่อรองรับความต้องการลงทุนระยะสั้นที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

โดยกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 10% ทาร์เก็ต 7 (KFEQ10-7) เป็นกองทุนประเภททาร์เก็ตฟันด์ (Target Fund) ซึ่งกำหนดเป้าหมายและจ่ายคืนผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มประมาณ10% หรือไม่ต่ำกว่า 11.11 บาทต่อหน่วย ภายในระยะเวลาประมาณ 1 ปีหรือน้อยกว่า ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูงโดยใช้กลยุทธ์การลงทุนจากความเชี่ยวชาญในการเลือกหลักทรัพย์และความคล่องตัวในการปรับกลยุทธ์การลงทุนตามสถานการณ์เพื่อสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม
กำลังโหลดความคิดเห็น