บลจ. ซีไอเอ็มบี เผยหลัง กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก แบงก์พาณิชย์ออกโปรโมชั่นแข่งกันดุเดือด คาดหลาย บลจ. อาจต้องชะลอออกกองทุนบอนด์ไป หรืออาจลงทุนเพียงระยะสั้น ล่าสุด เปิดกองทุน "ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล ตราสารหนี้ 6M8" อายุ 6 เดือน เริ่มไอพีโอแล้ว ถึง 6 ก.ย. นี้ ด้าน บลจ.ธนชาต โลโอเวอร์ "ธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/2" ชูผลตอบแทน 3.2% รับคำสั่งซื้อ-ขายจนถึงวันที่ 2 กันยายนนี้
นายเจิดพันธ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ส่งผลให้แนวโน้มอัตราเงินฝากมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เงินฝากรายย่อยมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาดตราสารหนี้หรือพันธบัตรในประเทศประเทศอาจจะต้องมีการหยุดชะงักลงไป ซึ่งคาดว่าหลาย ๆ บลจ.อาจจะต้องมีการพักการออกกอทุนประเทศดังกล่าวลงไปเลยก็มีเพราะถ้าออกมาอาจจะให้ผลตอบแทนที่สู้กับธนาคารพาณิชย์ไม่ไหว หรืออาจะมีการเปิดขายออกมาแต่อาจจะไม่บ่อยมากนักหรือจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
ทั้งนี้คาดว่าแผนการดำเนินงานแต่ละ บลจ. อาจจะต้องออกไปลงทุนต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า อย่างเช่น การลงทุนในจีน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า การออกกองทุนตราสารหนี้อาจจะมีการออกมาบ้าง แต่คงไม่คึกคักเหมือนที่เคยเป็นมาก่อน
ล่าบริษัทกำลังเปิดขายกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล ตราสารหนี้ 6M8 (CIMB-PRINCIPAL FIX 6M8) โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุ 6 เดือน มีมูลค่า 2,000 ล้านบาท เริ่มเปิดไอพีโอแล้ววันนี้ ถึง 6 กันยายน 2554
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเหมาะที่จะเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่ต้องการหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หรือภาคเอกชนที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นสูง โดยมีอันความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจาก ก.ล.ต.
ด้านนายสุรธีร์ กิตติวรวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เสนอขาย กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/2 (TGOV3M2) รอบการลงทุนประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.2% ต่อปี ลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประมาณ 99.80 % และลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ประมาณ 0.20% ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 3.3256% โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน 0.1256% ต่อปี โดยจะรับคำสั่งซื้อ-ขายจนถึงวันที่ 2 กันยายนนี้
โดยกองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็นตราสารภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ ที่กระทรวงการคัลงหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันกาเรงินเป็นผู้ออก หรือตราสารที่เทียบเป็นเงินสด โดยเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนต่อเนื่อง หรือลงทุนเพิ่มตเมได้ เป็นระยะเวลา 3 เดือน
นายเจิดพันธ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ส่งผลให้แนวโน้มอัตราเงินฝากมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เงินฝากรายย่อยมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาดตราสารหนี้หรือพันธบัตรในประเทศประเทศอาจจะต้องมีการหยุดชะงักลงไป ซึ่งคาดว่าหลาย ๆ บลจ.อาจจะต้องมีการพักการออกกอทุนประเทศดังกล่าวลงไปเลยก็มีเพราะถ้าออกมาอาจจะให้ผลตอบแทนที่สู้กับธนาคารพาณิชย์ไม่ไหว หรืออาจะมีการเปิดขายออกมาแต่อาจจะไม่บ่อยมากนักหรือจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
ทั้งนี้คาดว่าแผนการดำเนินงานแต่ละ บลจ. อาจจะต้องออกไปลงทุนต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า อย่างเช่น การลงทุนในจีน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า การออกกองทุนตราสารหนี้อาจจะมีการออกมาบ้าง แต่คงไม่คึกคักเหมือนที่เคยเป็นมาก่อน
ล่าบริษัทกำลังเปิดขายกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล ตราสารหนี้ 6M8 (CIMB-PRINCIPAL FIX 6M8) โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุ 6 เดือน มีมูลค่า 2,000 ล้านบาท เริ่มเปิดไอพีโอแล้ววันนี้ ถึง 6 กันยายน 2554
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเหมาะที่จะเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่ต้องการหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หรือภาคเอกชนที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นสูง โดยมีอันความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจาก ก.ล.ต.
ด้านนายสุรธีร์ กิตติวรวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เสนอขาย กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/2 (TGOV3M2) รอบการลงทุนประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.2% ต่อปี ลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประมาณ 99.80 % และลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ประมาณ 0.20% ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 3.3256% โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน 0.1256% ต่อปี โดยจะรับคำสั่งซื้อ-ขายจนถึงวันที่ 2 กันยายนนี้
โดยกองทุนดังกล่าวจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็นตราสารภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ ที่กระทรวงการคัลงหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันกาเรงินเป็นผู้ออก หรือตราสารที่เทียบเป็นเงินสด โดยเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนต่อเนื่อง หรือลงทุนเพิ่มตเมได้ เป็นระยะเวลา 3 เดือน
