ASTVผูจัดการรายวัน - บลจ.ทหารไทย เดินทัพลงทุนครึ่งปีหลัง ชู ระบบกองสำรองเลี้ยงชีพผ่านระบบ “FundLink M Choice Online” ให้ลูกจ้างเลือกลงทุนตามสไตน์ตนเอง เน้นเจาะกลุ่มบริษัทจดทะเบียน บริษัทเอกชนชั้นนำและสถานศึกษา พร้อมตั้งเป้า AUM สิ้นปีโต 140,000 ล้านบาท
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ. )ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันขณะนี้บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 128,000 ล้านบาท ตั้งเป้าว่าปลายปีนี้จะเติบโตขึ้นอยู่ที่ประมาณ 140,000 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตที่ 150,000 ล้านบาทในปีหน้าโดยคาดว่าจะมีเงินลงทุนเข้ามาในส่วนของกองทุนรวมประเภทเทอมฟันด์ รวมถึงกองทุน LTF - RMF ที่ทยอยลงทุนในช่วงปลายปี ขณะเดียวกันเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีการฟื้นตัวรวมทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศไทยที่มีความชัดเจนส่งผลให้นักลงทุนน่าจะกลับเข้ามาลงทุนในช่วงนี้
ทั้งนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานในครึ่งปีหลังไว้ 3 ประการ อันได้แก่ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างที่เรียกว่า Fundlink online เพื่อต่อยอดให้แก่ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยแนวคิดหลักคือการลงทุนให้เป็นเสมือนกองทุนรวมทั่วไป ดังนั้นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึงเป็นเสมือนผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมด้วยเช่นกัน จึงเปิดตัวระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการบริการให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านระบบ “FundLink M Choice Online” ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกในอุตสาหกรรมที่สามารถพัฒนาระบบการทำธุรกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้บริการแก่สมาชิกกองทุนในการทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เนต ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยได้เริ่มแนะนำให้แก่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
“เราเชื่อว่าผู้ลงทุนหรือสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นผู้เข้าใจตนเองได้ดีที่สุด การให้ “เสรีภาพ” ในการเลือกลงทุน จะนำมาซึ่ง Power of Choice และPower of Information ซึ่งระบบ “FundLink M Choice Online” จะเป็นเสมือนตัวกลางส่งผ่านแนวคิดดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในการนี้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ บลจ.ทหารไทย จะมีเสรีภาพของตนเองและมีความสะดวกสบายในการเข้าสู่ระบบโดยกำหนด User Name และ Password ด้วยตนเองเพื่อเลือกแผนการลงทุนที่สามารถมีมากได้ถึง 10 นโยบาย ทั้งนี้ ขึ้นกับกรอบการลงทุนของคณะกรรมการกองทุนของแต่ละบริษัทซึ่งได้กำหนดไว้ นอกไปจากนั้น สมาชิกฯยังปรับสัดส่วนมูลค่าเงินลงทุนที่มีอยู่เดิมหรือเงินที่เข้าใหม่ในแบบที่ตรงกับความต้องการของตนเองได้มากที่สุด (Tailor Made) และกรณีที่ทำรายการธุรกรรมต่างๆภายในเวลาที่กำหนดก็จะมีผลในวันที่ทำรายการนั้นโดยทันที กรณีสมาชิกลาออกจากงานก็สามารถรอรับเงินได้รวดเร็ว
ขึ้นว่าเดิมเพราะทำรายการได้ทุกวัน เป็นต้น ” นายสมจินต์ กล่าว
กลยุทธ์ประการที่สอง คือการตลาดผสานความรู้ (Educational Marketing) ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ จะเร่งเดินหน้าการเข้าไปให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการออมการลงทุนกับพนักงานในองค์กรและหน่วยงานต่างๆ โดยเน้นไปที่กลุ่มบริษัทจดทะเบียน บริษัทเอกชนชั้นนำ สถานศึกษาที่สนใจ ถือเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้แก่สังคมโดยไม่จำเป็นต้องเป็นกิจกรรมเพื่อการตลาดเสมอไป นอกจากนั้นจะมีการจัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารทางเศรษฐกิจ การลงทุนอันเป็นปัจจุบัน การแนะนำแนวทางการบริหารและวางแผนทางเงิน ทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจให้แก่แก่ผู้ลงทุน อาทิเช่น การจัดงานสัมมนาร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่อง “ส่องกล้องมองทิศเศรษฐกิจไทย...จะจัดทัพลงทุนอย่างไรในครึ่งหลังปี 54” ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม นี้ ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียนอินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงการกิจกรรมสัมมนาพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีของการก่อตั้งบลจ.ทหารไทย เป็นต้น
และกลยุทธ์สุดท้าย คือ การนำเสนอกองทุนใหม่ๆ โดยในครึ่งปีหลังมองว่ากองพันธบัตรเกาหลีใต้ได้ทยอยครบกำหนดไถ่ถอนประกอบกับภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับราคาที่ค่อนข้างสูง และมีความผันผวน ดังนั้นการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่มีความแข่งแกร่งจึงเป็นทางเลือก ล่าสุดได้กำหนดออก “กองทุนเปิดทหารไทย โกลบอล บอนด์ ปันผล” (TMB Global Bond Dividend Fund :TMBGDF) เอาใจผู้ลงทุนที่ต้องการ Cash Flow ในรูปเงินปันผล ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการบริหารเงินลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนเปิดทหารไทย TMB Global Bond Fund คือเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว คือกองทุน Templeton Global Bond Fund แต่ต่างกันตรงที่จะมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ลงทุนไม่เกินปีละ 4 ครั้ง พิจารณาจากการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานประจำแต่ละงวดบัญชี หรือกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริง ณ สิ้นงวด ตามที่บริษัทจัดการพิจารณาเห็นสมควร และการจ่ายปันผลจะไม่ทำให้กองทุนมีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นในงวดบัญชีที่มีการจ่ายปันผลนั้น โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม - 5 สิงหาคมนี้ พร้อมมอบโปรโมชั่นดีๆ สำหรับผู้ลงทุนที่ลงทุนในช่วง IPO ทุกๆ 100,000 บาท รับพิเศษเงินลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี 200 บาท
นอกจากนี้ยังเตรียมกองออกกองทุนใหม่ๆ อาทิ การออกกองทุนที่มีลักษณะของการคุ้มครองเงินต้น เพื่อรองรับมาตรการยกเลิกการค้ำประกันเงินฝากของภาครัฐโดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างธนาคารทหารไทยและบลจ.ทหารไทย การออกกองทุนพันธบัตรต่างประเทศเพื่อเติมเต็มผลิตภัณฑ์ และเป็นทางเลือกใหม่ในตระกูล “ธนแฟมิลี่” ซึ่งจะทำให้ บลจ.ทหารไทย มีกองทุนตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้ที่ครอบคลุมช่วงระยะเวลาและความเสี่ยงที่สามารถเลือกได้ตามความต้องการอย่างสมบูรณ์ และอาจรวมไปถึงการพัฒนากองทุนรูปแบบใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากระบบเทคโนยีของที่มีความเพียบพร้อมและเปี่ยมประสิทธิภาพ
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ. )ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันขณะนี้บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 128,000 ล้านบาท ตั้งเป้าว่าปลายปีนี้จะเติบโตขึ้นอยู่ที่ประมาณ 140,000 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตที่ 150,000 ล้านบาทในปีหน้าโดยคาดว่าจะมีเงินลงทุนเข้ามาในส่วนของกองทุนรวมประเภทเทอมฟันด์ รวมถึงกองทุน LTF - RMF ที่ทยอยลงทุนในช่วงปลายปี ขณะเดียวกันเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีการฟื้นตัวรวมทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศไทยที่มีความชัดเจนส่งผลให้นักลงทุนน่าจะกลับเข้ามาลงทุนในช่วงนี้
ทั้งนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานในครึ่งปีหลังไว้ 3 ประการ อันได้แก่ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างที่เรียกว่า Fundlink online เพื่อต่อยอดให้แก่ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยแนวคิดหลักคือการลงทุนให้เป็นเสมือนกองทุนรวมทั่วไป ดังนั้นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึงเป็นเสมือนผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมด้วยเช่นกัน จึงเปิดตัวระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการบริการให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านระบบ “FundLink M Choice Online” ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกในอุตสาหกรรมที่สามารถพัฒนาระบบการทำธุรกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้บริการแก่สมาชิกกองทุนในการทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เนต ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยได้เริ่มแนะนำให้แก่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
“เราเชื่อว่าผู้ลงทุนหรือสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นผู้เข้าใจตนเองได้ดีที่สุด การให้ “เสรีภาพ” ในการเลือกลงทุน จะนำมาซึ่ง Power of Choice และPower of Information ซึ่งระบบ “FundLink M Choice Online” จะเป็นเสมือนตัวกลางส่งผ่านแนวคิดดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในการนี้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ บลจ.ทหารไทย จะมีเสรีภาพของตนเองและมีความสะดวกสบายในการเข้าสู่ระบบโดยกำหนด User Name และ Password ด้วยตนเองเพื่อเลือกแผนการลงทุนที่สามารถมีมากได้ถึง 10 นโยบาย ทั้งนี้ ขึ้นกับกรอบการลงทุนของคณะกรรมการกองทุนของแต่ละบริษัทซึ่งได้กำหนดไว้ นอกไปจากนั้น สมาชิกฯยังปรับสัดส่วนมูลค่าเงินลงทุนที่มีอยู่เดิมหรือเงินที่เข้าใหม่ในแบบที่ตรงกับความต้องการของตนเองได้มากที่สุด (Tailor Made) และกรณีที่ทำรายการธุรกรรมต่างๆภายในเวลาที่กำหนดก็จะมีผลในวันที่ทำรายการนั้นโดยทันที กรณีสมาชิกลาออกจากงานก็สามารถรอรับเงินได้รวดเร็ว
ขึ้นว่าเดิมเพราะทำรายการได้ทุกวัน เป็นต้น ” นายสมจินต์ กล่าว
กลยุทธ์ประการที่สอง คือการตลาดผสานความรู้ (Educational Marketing) ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ จะเร่งเดินหน้าการเข้าไปให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการออมการลงทุนกับพนักงานในองค์กรและหน่วยงานต่างๆ โดยเน้นไปที่กลุ่มบริษัทจดทะเบียน บริษัทเอกชนชั้นนำ สถานศึกษาที่สนใจ ถือเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้แก่สังคมโดยไม่จำเป็นต้องเป็นกิจกรรมเพื่อการตลาดเสมอไป นอกจากนั้นจะมีการจัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารทางเศรษฐกิจ การลงทุนอันเป็นปัจจุบัน การแนะนำแนวทางการบริหารและวางแผนทางเงิน ทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจให้แก่แก่ผู้ลงทุน อาทิเช่น การจัดงานสัมมนาร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่อง “ส่องกล้องมองทิศเศรษฐกิจไทย...จะจัดทัพลงทุนอย่างไรในครึ่งหลังปี 54” ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม นี้ ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียนอินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงการกิจกรรมสัมมนาพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีของการก่อตั้งบลจ.ทหารไทย เป็นต้น
และกลยุทธ์สุดท้าย คือ การนำเสนอกองทุนใหม่ๆ โดยในครึ่งปีหลังมองว่ากองพันธบัตรเกาหลีใต้ได้ทยอยครบกำหนดไถ่ถอนประกอบกับภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับราคาที่ค่อนข้างสูง และมีความผันผวน ดังนั้นการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่มีความแข่งแกร่งจึงเป็นทางเลือก ล่าสุดได้กำหนดออก “กองทุนเปิดทหารไทย โกลบอล บอนด์ ปันผล” (TMB Global Bond Dividend Fund :TMBGDF) เอาใจผู้ลงทุนที่ต้องการ Cash Flow ในรูปเงินปันผล ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการบริหารเงินลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนเปิดทหารไทย TMB Global Bond Fund คือเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว คือกองทุน Templeton Global Bond Fund แต่ต่างกันตรงที่จะมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ลงทุนไม่เกินปีละ 4 ครั้ง พิจารณาจากการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานประจำแต่ละงวดบัญชี หรือกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริง ณ สิ้นงวด ตามที่บริษัทจัดการพิจารณาเห็นสมควร และการจ่ายปันผลจะไม่ทำให้กองทุนมีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นในงวดบัญชีที่มีการจ่ายปันผลนั้น โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม - 5 สิงหาคมนี้ พร้อมมอบโปรโมชั่นดีๆ สำหรับผู้ลงทุนที่ลงทุนในช่วง IPO ทุกๆ 100,000 บาท รับพิเศษเงินลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี 200 บาท
นอกจากนี้ยังเตรียมกองออกกองทุนใหม่ๆ อาทิ การออกกองทุนที่มีลักษณะของการคุ้มครองเงินต้น เพื่อรองรับมาตรการยกเลิกการค้ำประกันเงินฝากของภาครัฐโดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างธนาคารทหารไทยและบลจ.ทหารไทย การออกกองทุนพันธบัตรต่างประเทศเพื่อเติมเต็มผลิตภัณฑ์ และเป็นทางเลือกใหม่ในตระกูล “ธนแฟมิลี่” ซึ่งจะทำให้ บลจ.ทหารไทย มีกองทุนตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้ที่ครอบคลุมช่วงระยะเวลาและความเสี่ยงที่สามารถเลือกได้ตามความต้องการอย่างสมบูรณ์ และอาจรวมไปถึงการพัฒนากองทุนรูปแบบใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากระบบเทคโนยีของที่มีความเพียบพร้อมและเปี่ยมประสิทธิภาพ
