บลจ.บัวหลวงเร่งเครื่องลุยธุรกิจกองทุน ตั้งเป้าขยายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ-กองทุนส่วนบุคคลตามแผน คาดทั้งปีโตรวม 15% ด้านกองทุนรวม โชว์ผลงานโดดเด่น ทั้งแอลทีเอฟ อาร์เอ็มเอฟและกองทุนต่างประเทศ
นายหรรสา สุสายัณห์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของทั้ง 2 กองทุนในไตรมาส 2 ว่า การทำงานขณะนี้ยังคงสานต่อแผนงานจากปีที่ผ่านมา ที่บริษัทพยายามให้ความรู้ความเข้าใจต่อนักลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ในรูปแบบ Employee’s Choice มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนเองได้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นว่าตนเองมีความเหมาะสมกับการลงทุนประเภทใด โดยช่วงไตรมาส 3 นี้คาดว่าจะมีสมาชิกเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้ารายย่อยอย่างเอสเอ็มอีเองได้เข้ามาให้จัดตั้งกองทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยในปีนี้ฐานลูกค้าของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอีกจากฐานลูกค้าเดิมประมาณ 10 - 15% เพราะจากการปรับแผนการบริหารเงินของกองทุนดังกล่าวขณะนี้ บริษัทเองจะเน้นไปยังกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้นที่เป็นลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาให้จัดพอร์ตการลงทุน
“รูปแบบ Employee’s Choice ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้นักลงทุนได้เลือก ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจกับสมาชิกให้มากยิ่งขึ้น และสำหรับในช่วงหลังจากไตรมาส 2 ไปแล้วเราจะรุกไปยังกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีที่เป็นขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการขนาดฐานสมาชิกให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น” นายหรรษา กล่าว
นายหรรษา บอกต่ออีกว่า ในส่วนของกองทุนรวมส่วนบุคคลในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทใหญ่ ๆ ต่างเก็บเงินสดไว้ยังไม่ค่อยมีการนำมาลงทุนมากนัก หลายบริษัทยังคงเก็บเงินสดไว้หลักหลายพันล้านบาท พอมาถึงช่วงปีนี้ การฝากเงินกับธนาคารต้องเป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยลูกค้าเองจะต้องมีการทำบัญชีทรัพย์สินซึ่งจะเป็นการเข้มงวดมากพอสมควร ดังนั้นลูกค้าจะลงทุนด้วยตัวเองจะเป็นการยุ่งยากมาก
ทั้งนี้ลูกค้าเองจึงเข้ามาให้บริษัทเป็นตัวจัดพอร์ตการลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าในปีนี้เองบริษัทจะมีการเติบโตของกองทุนรวมส่วนบุคคลไม่ต่างไปจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กับฐานลูกค้ารายใหม่ ๆ ส่วนฐานลูกค้ารายเก่า บริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าธนาคารกรุงเทพเป็นอย่างดีที่ให้ทางบริษัทได้จัดพอร์ตการลงทุนให้
“กองทุนส่วนบุคคล ฐานลูกค้าหลักของเรายังคงมาจากธนาคารกรุงเทพเป็นหลัก ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเงินฝากและอยากหาช่องทางการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ก็จะให้เรามาช่วยบริหารให้ ซึ่งบลจ. บัวหลวงเองก็ได้ประสานงานทำงานร่วมกับธนาคารกรุงเทพอย่างใกล้ชิด และได้ทำงานควบคู่กันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยความไว้วางใจของลูกค้าทางธนาคารก็จะมาใช้บริการต่อจากบลจ.บัวหลวง”
ผลงานกองทุนรวมโดดเด่น
ด้านนายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บลจ.บัวหลวง เปิดเผยว่า เมื่อพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนรวมภายใต้การจัดการประเภทต่างๆ แล้ว ผลตอบแทนถึงผู้ถือหน่วยน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่สร้างความพึงพอใจแก่ผู้ถือหน่วย โดยเฉพาะในกองทุนรวมตราสารทุน กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมต่างประเทศ
ทั้งนี้ ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา กองทุนรวมตราสารทุนของบลจ.บัวหลวงที่โดดเด่น ประกอบด้วย กองทุนเปิดบัวหลวงทศพลให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ 11.67 และกองทุนเปิดบัวหลวงธนคมที่สามารถสร้างผลตอบแทนประมาณร้อยละ 11.64 เมื่อเทียบกับดัชนีหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ 11.08 ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน ทั้งสองกองทุนข้างต้นต่างสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดีโดยมีผลตอบแทนร้อยละ 11.78 และ 12.92 ตามลำดับ และในช่วงเวลาเดียวกันนี้กองทุนเปิดบัวแก้วให้ผลตอบแทนร้อยละ 11.82 และกองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุนก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ประมาณร้อยละ 11.73 เมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากดัชนีหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 11.38
เช่นเดียวกันกับกองทุนรวม LTF ของบลจ.บัวหลวงที่สามารถสร้างผลตอบแทนในช่วง 3 เดือนย้อนหลังได้ดี โดยกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว สามารถสร้างผลตอบแทนได้ประมาณร้อยละ 11.83 ขณะที่กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 ซึ่งจำกัดอัตราส่วนการลงทุนในตราสารทุน ก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ประมาณร้อยละ 9.26 กองทุน RMF เองก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยกองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพมีผลตอบแทนร้อยละ 11.92
สำหรับกองทุนรวม RMF ประเภทผสม กองทุนเปิดบัวหลวงเฟล็กซิเบิ้ลฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน และ 6 เดือนได้สูงกว่าดัชนีเปรียบเทียบมาก โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 11.33 และย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 9.98 ขณะที่ผลตอบแทนของดัชนีมาตรฐานอยู่ที่ร้อยละ 6.15 และ 5.40 ตามลำดับ
นายวศินกล่าวถึงกองทุนรวมต่างประเทศ ซึ่งกองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์เองก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 12.16 ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 12.95 เช่นเดียวกับกองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 12.01 และผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 12.28 โดยผลตอบแทนค่อนข้างใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีมาตรฐานซึ่งย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 12.31 และย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 13.87
กองทุนรวมต่างประเทศอีกกองทุนหนึ่งที่เรามีคือกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลบวกจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศสหรัฐอเมริกา และการเพิ่มความเอาใจใส่ในสุขภาพมากขึ้นของประชากรในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging market) ส่งผลให้ผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 7.52 และย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 14.44 ขณะที่ผลตอบแทนของดัชนี MSCI World Health Care ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 6.76 ขณะที่ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 12.26
"การที่ผลตอบแทนของกองทุนประเภทต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนไทย และนักลงทุนต่างประเทศ ในการกลับเข้ามาลงทุน ซึ่งทางบลจ.บัวหลวงเอง มีผลิตภัณฑ์กองทุนรวมค่อนข้างครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้า"นายวศินกล่าว
