xs
xsm
sm
md
lg

คาดกำไรบจ.ส่อลดในปีหน้า ผลพวงวิกฤตศก.สหรัฐยังยืดเยื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ทหารไทย ชี้ หากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยืดเยื้อ อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ ในปีหน้า คาด สหรัฐฯ จะใช้ มาตรการQE3 ต่อเนื่องหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า จากการที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯลง จนเกิดความกังวลที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีการถดถอยลงนั้น อาจผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆได้โดยในช่วงปีนี้บริษัทต่างๆยังคงมีผลประกอบการที่ดีอยู่ แต่หากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังไม่ดี บริษัทๆอาจได้รับผลกระทบได้ในช่วงปีหน้า
 
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดหุ้นตกลงไปมากๆ นี้ อาจมีแรงซื้อกลับมาบ้างในนักลงทุนบางกลุ่มแต่อีกกลุ่มก็ยังคงถือเงินสดรอดูสถานการณ์ ซึ่งในช่วงระยะนี้ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่มีการขายออกไปเช่นกัน ขณะดียวกัน ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นมามากในช่วงนี้จากความกังวลต่อเศรษฐกิจนั้น จะยังคงสูงจนกว่าตลาดหุ้นจะปรับขึ้น นักลงทุนจึงย้ายเงินลงทุนนจากทองคำไปที่หุ้นแทน โดยราคาทองคำจะปรับตัวลงมากเท่าใดนั้น ที่ผ่านมาพบว่า ถ้าตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นประมาณ 20 จุด ราคาทองคำก็จะปรับตัวลงประมาณ 20 เหรียญฯ

ทั้งนี้ คาดว่าสหรัฐฯน่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือ QE3 ต่อเนื่องเพื่อให้เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโต ขณะที่ยุโรปจะมีปัญหายืดเยื้อต่อไปเนื่องจากรูปแบบการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่างจากสหรัฐฯ เพราะมีหลายประเทศการตัดสินใจต่างๆทำได้ยากกว่าสหรัฐฯ

ด้าน บลจ. ยูโอบี จำกัด รายงานภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรปว่า หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Standard & Poor's (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐฯ ลง 1 ขั้นจาก AAA สู่ AA+ และยังระบุถึงแนวโน้มในเชิงลบ ซึ่งการปรับลดดังกล่าวนั้นจะเพิ่มต้นทุนในการกู้ยืมเงินของรัฐบาล บริษัทเอกชน และผู้บริโภค นอกจากนี้ การที่ S&P ได้ให้แนวโน้มในเชิงลบนั้นบ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ลงอีกในช่วง 12-18 เดือน ข้างหน้า

ทางด้าน Moody's Investor Service และ ฟิทซ์ ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ของสหรัฐฯ แต่ยังคงแนวโน้มในเชิงลบ โดยระบุว่า ข้อตกลงในการปรับลดรายจ่าย และเพิ่มเพดานหนี้ นั้นถือเป็นก้าวแรกไปสู่การบรรลุเป้าหมายด้านความแข็งแกร่งทางการคลังในระยะยาว ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นต่อการรักษาอันดับความน่าเชื่อถืออันดับ AAA แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า

ส่วนทางด้านเศรษฐกิจยุโร คาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะตรึงดอกเบี้ยไปจนถึงปีหน้า ในขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในยูโรโซนยังคงอ่อนแอ แม้จะสามารถบรรลุข้อตกลงในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือกรีซ และยับยั้งวิกฤตหนี้ไม่ให้ลุกลามไปถึงสเปน และอิตาลีได้ แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตลาดเงินก็ยังคงไม่แน่ใจว่าอีซีบีจะสามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อไปหรือไม่ ขณะเดียวกัน อิตาลี เปิดประมูลพันธบัตรในวงเงิน 8 พันล้านยูโร (1.14 หมื่นล้านดอลล่าร์) โดยอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรอิตาลีประเภท 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ 5.77% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008
แม้ว่าอิตาลีจะสามารถขายพันธบัตรในตลาดได้ทั้งหมด แต่อัตราผลตอบแทนนั้นเริ่มที่จะแสดงแนวโน้มที่น่าเป็นห่วง ซึ่งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลี ทำให้นักลงทุนตั้งข้อสงสัยว่า อิตาลีจะสามารถจ่ายเงินสมทบให้แก่การปล่อยสินเชื่องวดใหม่ของยูโรโซนได้หรือไม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบแรกสำหรับกรีซ
กำลังโหลดความคิดเห็น