xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นทั่วโลกขานรับอียิปต์คลี่คลาย กูรูแนะเก็งกำไรกองทุนตลาดเกิดใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิเคราะห์กองทุนรวมมอง ระยะสั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรป มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีต่อเนื่องประกอบกับการลาออกของ"มูบารัค" ส่งผลบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียยังมีแรงเทขายจากนักลทุนต่างชาติเป็นระยะ เหตุความกังวลด้านเงินเฟ้อ

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลาออกของประธานาธิบดีอียิปต์ฮอสนี มูบารัค ทำให้สถานการณ์คลายความตึงเครียดลง และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงออกมาดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกขานรับปัจจัยบวกดังกล่าว ระยะสั้นตลาดหุ้น US และ Europe ยังคงเป็นขาขึ้น แต่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่มองว่าเป็นการรีบาวด์ระยะสั้น โดยยังคงเห็นการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติอยู่ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะเห็นการรีบาวด์ในแนวโน้มขาลง สำหรับนักลงทุนที่ลงทุน LTF ไว้ยังแนะนำให้ถือกองทุน LTF ความเสี่ยงต่ำต่อไป กองทุนแนะนำได้แก่ 1SMART-LTF ของบลจ. วรรณ และกองทุน KSDLTF (K Strategic Defensive LTF) ของ บลจ. กสิกรไทย

อย่างไรก็ตาม หากมองดูระยะยาวแล้ว เศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ยังคงแข็งแกร่งกว่าทางประเทศพัฒนาแล้วที่เศรษฐกิจ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่โดยเฉพาะยุโรป ทำให้เรายังคงให้น้ำหนักการลงทุนระยะยาวไปทางฝั่ง Emerging market มากกว่า กองทุนตลาดเกิดใหม่ที่แนะนำยังคงเป็นABGEM และ ABAPAC ของ บลจ. Aberdeen ตามเดิม นอกจากนี้เรายังคงชอบตลาดจีนอยู่และคาดว่าจะเห็นอัตราเงินเฟ้อในทิศทางที่ดีขึ้นดัชนีเซี่ยงไฮ้ A-share ระยะสั้นกลับมาสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง แนะนำเก็งกำไร กองทุน TMBCHEQ ของ บลจ.ทหารไทย สำหรับการลงทุนระยะยาวในกองทุนจีน ยังคงแนะนำ ABCG ของ Aberdeen ตามเดิม ขณะที่ตราสารหนี้เรายังเน้นไปที่ตลาดเกิดใหม่เช่นกัน โดยกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศแนะนำเป็น TMB Global Bond Fund ของ บลจ.ทหารไทย โดยกองทุนหลัก (Master Fund) ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง

สำหรับราคาทองคำมองว่ายังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,370-1,380 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ปัจจัยในอียิปต์ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำลดลง เราจึงมองสัปดาห์นี้ราคาทองคำจะยังคงทรงตัวในระดับปัจจุบันต่อไปจนกว่าจะมีปัจจัยใหม่สนับสนุนกองทุนทองคำแนะนำ K-GOLD ของ บลจ.กสิกรไทย และ ASP-GOLD ของ Asset Plus ส่วนราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงหลังการจลาจลในอียิปต์คลี่คลาย ลดความกังวลเกี่ยวกับการขนส่งน้ำมันผ่านคลองสุเอซ เรายังคงมองแนวโน้มการปรับตัวของราคาน้ำมันระหว่าง 84-94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล ต่อไป แนะนำขึ้นขาย ลงซื้อ กองทุนน้ำมันยังแนะนำ K-OIL ของ บลจ. กสิกรไทย

นายสานุพงศ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นในสหรัฐเอง นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจและการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดเป็นหลัก ขณะที่ตลาดซึ่งแกว่งตัวขึ้นมาตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นใจให้นักลงทุน โดยในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจ สัปดาห์ที่ผ่านมามีการรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยลดลงถึง 36,000 ราย สู่ 383,000 รายซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งและดีกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ว่าจะลดลง 9,000 ราย ช่วยเพิ่มความหวังว่าการฟื้นตัวมีความแข็งแกร่งขึ้น ส่วนยุโรป ตลาดหุ้นหลักแกว่งขึ้นต่อตามสหรัฐ โดยการประกาศลาออกจากตำแหน่งของประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค สัปดาห์ที่ผ่านมาช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอียิปต์และเป็นผลบวกต่อตลาดโลก

ส่วนตลาดหุ้นจีนหลังเทศกาลตรุษจีน มีการเคลื่อนไหวในตลาดเอเชียเป็นไปในทางลบ โดยจีนได้สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% อย่างไม่คาดฝันในวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลตรุษจีน การประกาศดังกล่าวดูจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อดัชนีเซี่ยงไฮ้ A-Share หลังสภาพคล่องในระบบดีขึ้น ทั้งนี้ ตลาดฮ่องกงดูจะได้รับผลกระทบมากกว่า โดยความกังวลต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ก่อให้เกิดแรงขายหนักกดดันดัชนี Hang Seng สำหรับตลาดอื่นๆในภูมิภาคยังคงเห็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดชยเฉพาะกลุ่ม TIP โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ปิดตัวลดลง ขณะที่ SET ของไทยปิดลบมากกว่า เพราะมีประเด็นทางการเมืองในประเทศเข้ามาถ่วง
กำลังโหลดความคิดเห็น