xs
xsm
sm
md
lg

กูรูมองแนวโน้มราคาทองยังไปต่อ แนะนลท.เล่นสั้นจ่อเก็งกำไรอีกรอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิเคราะห์กองทุนรวม ประเมินราคาทองคำยังไม่หลุด1,350 -1,360 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ แนะทยอยสะสมกองทุนทองคำต่อมั่นใจระยะยาวผลตอบแทนยังดี ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ1,350-1,420 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง บวกกับตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป ทำให้ราคาทองคำในระยะสั้นปรับตัวในกรอบ Sideway อย่างไรก็ตามแนวโน้มระยะกลาง-ยาว เรายังคงมองเป็นขาขึ้นหากราคาทองคำยังไม่หลุด 1,350 - 1,360 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่สามารถรับความเสี่ยงได้แนะนำเก็งกำไรขึ้น ขายลงซื้อในกรอบ1,350-1,420 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

แต่สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาวแนะนำรอดูสถานการณ์ โดยกองทุนทองคำยังคงแนะนำเป็น K-GOLD ของบลจ.กสิกรไทย และทางเลือกสำหรับกองทุนทองคำที่ไม่จ่ายปันผลเราแนะนำกองทุนทองคำของบลจ.แอสเซ็ท พลัส ASP-GOLD ซึ่งมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกัน แต่ค่าใช้จ่ายกองทุน(Total Expenses) แพงกว่าเล็กน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันเรายังคงแนะนำ “ขายทำกำไรและรอจังหวะสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว” โดยเรามองราคาน้ำมัน Sideway ในกรอบ 84-94 US$/bbl. กองทุนน้ำมันยังแนะนำ K-OIL ของบลจ.กสิกรไทย

ทั้งนี้การฟื้นตัวที่ดีของสหรัฐและการคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป รวมถึงภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตที่ดี ทำให้ระยะสั้น ตลาดกลับไปสนใจลงทุนในสหรัฐเพิ่มมากขึ้นและทำให้ตลาดเกิดใหม่มีความผันผวน อย่างไรก็ตาม เรายังคงมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปยังมีความเปราะบาง ระยะยาวเรายังเชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่มีความแข็งแกร่งมากกว่าทางฝั่งตะวันตก แต่ต้องระมัดระวังความผันผวนของปัจจัยระยะสั้น ทั้งการไหลของกระแสเงินทุนและปัญหาเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ตามเราจึงยังคงแนะนำลงทุนในกองทุนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อย่าง ABGEM และ ABAPAC ของบลจ.Aberdeen ขณะที่กองทุนจีนคาดว่าจะเห็นความผันผวนจากการออกมาตรการควบคุมเงินเฟ้อและการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เรามองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมกองทุนจีนเพื่อการลงทุนในระยะยาวแนะนำสะสมกองทุนจีน ABCG (Aberdeen China Gateway Fund) สำหรับกองทุนหุ้นต่างประเทศที่แนะนำไปนั้น ไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้อาจมีผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในค่าเงิน จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้ ในส่วนกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศเรายังคงแนะนำให้สะสมเพิ่มกองทุน TMB Global Bond Fund ที่เน้นลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยยังเชื่อว่าค่าเงินของประเทศดังกล่าวยังมีแนวโน้มที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนยังคงจับตาเศรษฐกิจสหรัฐ โดยแม้หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวจะให้ความหวังเชิงบวก แต่ตัวเลขด้านแรงงานก็ยังคงปรับตัวได้ไม่ดีนัก โดยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานล่าสุดก็ยังสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนต่อเป็นสัปดาห์ที่สอง โดยเพิ่มขึ้นถึง 35,000 รายมาอยู่ที่ 445,000 ราย เป็นการเพิ่มสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์และตรงข้ามกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 5,000 ราย อย่างไรก็ดี แรงเก็งกำไรในช่วงฤดูประกาศผลประกอบการที่เริ่มต้นขึ้นช่วยหนุนบรรยากาศในตลาดหุ้นส่งให้ DJIA ปิดบวกได้เล็กน้อย จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ฝั่งยุโรป โดยรวมปรับตัวได้ดีกว่า สาเหตุหลักมาจากความมั่นใจในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น หลังโปรตุเกสประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตรในวันอังคารและตามติดมาด้วยพันธบัตรของสเปนและอิตาลีที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นกัน อีกทั้งจีนเเละญี่ปุ่นก็ช่วยเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อเเสดงเเรงสนับสนุนต่อยุโรป

ขณะที่ตลาดหุ้นจีน ช่วงต้นสัปดาห์ซื้อขายในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ในประเทศเข้ามาเป็นแรงหนุน ก่อนที่จะปิดลบค่อนข้างแรงให้วันศุกร์ที่ผ่านมา หลังนักลงทุนกลับมากังวลว่าจะมีนโยบายคุมเข้มทางการเงินอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ และก็เป็นไปตามคาดเมื่อธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับเพิ่มเพดานกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ขึ้นอีก 0.50% มาที่ 19.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันนี้ (20 ธค) ส่วนฮ่องกง ตลาดปรับตัวตามทิศทางบวกของตลาดโลกและแรงเก็งกำไรผลประกอบการ ส่วนตลาดหุ้นไทยเอง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ 2.25% ไม่ส่งผลมากนักต่อ SETIเนื่องจากเป็นไปตามคาดการณ์ ขณะที่ตลาดหุ้นในภาพรวมยังไร้แรงหนุนใหม่ๆและถูกกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเช่นเดียวกันกับตลาดอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ดัชนีจึงเคลื่อนไหวในทางลบ
กำลังโหลดความคิดเห็น