xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนรวมโตแตะ2ล้านล้าน จบปีเสือ"กสิกรไทย"รั้งแชมป์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สำรวจกองทุนรวมปีเสือ เงินลงทุนรวมโตแตะ 2 ล้านล้าน หรือคิดเป็นการเติบโต 10.07% "กสิกรไทย" อวดฝีมือรั้งแชมป์เบอร์ 1 ด้วยสินทรัพย์รวมใกล้ 5 แสนล้าน จับตาการแข่งขันปีกระต่าย ดอกเบี้ยเป็นตัวแปรสำคัญ ด้านผู้ลงทุนมีช่องทางหาผลตอบแทนเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุตสาหกรรมกองทุนรวมในปี 2553 ที่ผ่านมา ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ถึงแม้ว่าในช่วงต้นปีจะมีความกังวลเกี่ยวกับการครบอายุของกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้หลายแสนล้านบาท รวมถึงความรุนแรงทางการเมืองในประเทศ ที่เกิดขึ้นในช่วงกลางปี แต่หลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้น จนส่งผลให้กองทุนหุ้นได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ในขณะที่กองทุนบอนด์เกาหลีใต้เอง แม้จะทยอยครบอายุ แต่ก็มีกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ รวมถึงตราสารหนี้ในประเทศอื่นมารองรับ แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม

จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้กองทุนรวมในปี 2553 โตขึ้นมาเป็น 2,031,655.08 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนเงินลงทุนที่เพิ้มขึ้นประมาณ 185,998.61 ล้านบาท จากเงินลงทุนรวม 1,845,656.47 ล้านบาทในปี 2552 โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 10.07% ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวไม่รวมกองทุนรวมที่กำลังดำเนินการชำระบัญชีเพื่อเลิกกองทุน

ทั้งนี้ ในส่วนของส่วนแบ่งการตลาดล่าสุด ผู้นำ 5 อันดับแรก ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยยังคงเป็นบริษัทในเครือธนาคารพาณิชย์ทั้งนั้น ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่มีสินทรัพย์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ได้แก่ บลจ.กสิกรไทย ด้วยสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 481,892.96 ล้านบาท ซึ่งในปีที่ผ่านมามีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 98,313.12 ล้านบาท อันดับ 2 บลจ.ไทยพาณิชย์ ด้วยสินทรัพย์รวม 474,630.83 ล้านบาท โตขึ้นประมาณ 56,273.21 ล้านบาท

สำหรับอันดับ 3. ได้แก่ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการรับโอนสินทรัพย์ในส่วนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภท 2 และ 4 จาก บลจ.ไอเอ็นจี ส่งผลให้สินทรัพย์รวมโตขึ้นเกิน 2 แสนล้านบาท มาอยู่ที่ 237,580.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 87,536.31 ล้านบาท อันดับ 4.บลจ.บัวหลวง มีเงินลงทุนรวมประมาณ 163,448.11 ล้านบาท ซึ่งในปี 2553 นี้ บลจ.บัวหลวงมีสินทรัพย์ลดลงเล็กน้อยที่ 39.47 ล้านบาท อันดับ 5. บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) มีเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 160,447.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 10,027.67 ล้านบาท ซึ่งบลจ.เอ็มเอฟซีโดนเด่นจากกองทุนหุ้น และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา มีบริษัทจัดการกองทุนเกิดใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 บริษัท นั่นคือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด โดยในช่วงแรกสามารถระดมทุนจากการเปิดขายกองทุนแรกไปได้ประมาณ 242.38 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในปีนี้เองการแข่งขันในธุรกิจกองทุนรวมจะยังเข้มข้น โดยมีตัวแปรสำคัญอยู่ที่การเอาชนะดอกเบี้ย ซึ่งมีธนาคารพาณิชย์เป็นคู่แข่งสำคัญในการระดมเงิน ซึ่งแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยนี้เอง จะทำให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนภาพรวมการลงทุนในกองทุนหุ้น กองทุนในประเทศน่าจะยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอยู่ แม้ว่าราคาหุ้นบ้านเราจะปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างสูงแล้ว ส่วนกองทุนหุ้นต่างประเทศ น่าจะได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากหุ้นในหลายประเทศยังปรับตัรขึ้นไม่มากหากเทียบกับตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน เป็นต้น

นอกเหนือไปจากนั้น ก็จะมีกองทุนรูปแบบใหม่มาให้เห็นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่เน้นลงทุนในสาธารณูปโภค กองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย กองทุนทองคำ รวมถึงกองทุนคาร์บอน ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มากขึ้นในการเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น