บลจ.ตบเท้าออกกองบอนด์ระยะสั้นรับดอกเบี้ยขาขึ้น กสิกรไทย จัดชุด 3 เดือน 6 เดือน ชูผลตอบแทน 1.7% และ 2.0% ต่อปี พร้อมเปิดโอกาสรับยิลด์เพิ่ม โอนเงินหลังเลิกกองเข้าK-MONEYแบบอัตโนมัติ มั่นใจผลตอบแทนโตกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ด้านบัวหลวงส่งกอง 5 เดือนประกวด ขณะที่นครหลวงไทย-กรุงไทย ไอพีโอกอง 3 เดือนและ 6 เดือนตามลำดับ ชูผลตอบแทนเท่ากัน 1.7% ต่อปี
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการ 2 กองทุนระหว่างวันที่ 6-12 มกราคมนี้ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่น่าสนใจจากการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ได้แก่ กองทุนเปิดเค พันธบัตร 3 เดือน แอล (KGB3ML)อายุโครงการ 3 เดือน และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน เอส (KFI6MS) อายุโครงการ 6 เดือน
ทั้งนี้ กองทุน KGB3ML มีขนาดกองทุน10,000 ล้านบาท และมี โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายที่ 1.70% ต่อปี โดยจะเน้นลงทุนส่วนใหญ่ในพันธบัตรรัฐบาลไทย ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากประจำหรือตราสารหนี้ของธนาคารออมสิน
ส่วนกองทุน KFI6MS ขนาดกองทุน 10,000 ล้านบาท และมีประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปีโดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย และเงินฝากประจำ 6 เดือนของธนาคาร Union National Bank (UNB) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของประเทศ โดยมีรัฐบาลอาบูดาบีถือหุ้นใหญ่ประมาณ 50 % และ รัฐบาลดูไบถือหุ้นอีกประมาณ 10 % ได้รับอันดับเครดิตเรตติ้ง A+ จาก Fitch พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีโอกาสรับผลตอบแทนนอกจากการลงทุนใน 2 กองทุนข้างต้นแล้ว เมื่อกองทุนครบอายุ บลจ. กสิกรไทยจะนำเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนไปซื้อกองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนที่เพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวจาก บลจ.บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้เปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 1/11 (B1/11) อายุประมาณ 5 เดือน ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท เริ่มเปิดขายไอพีโอแล้ววันนี้ ถึงวันที่ 10 มกราคม 2554 นี้
โดยกองทุน B1/11 จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง หรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลือกองทุนดังกกล่าวจะลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตราสารแห่งหนี้ของสถาบันการเงิน หรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นด้วยการทำธุรกรรมการซื้อตราสารแห่งหนี้ภาครัฐกับสถาบันการเงิน โดยมีสัญญาที่จะขายคืนตราสารแห่งหนี้ดังกล่าวตามวันที่กำหนดในสัญญา นอกจากนี้กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
ด้าน รายงานจากบลจ. นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ในช่วงเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนกองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ 3เดือน9/10 (NKT FIXIN3M9/10) ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 มกราคม 2554 ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน และให้ผลตอบแทนโดยประมาณอยู่ที่ 1.70% ต่อปี
ทั้งนี้กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ 3เดือน9/10 จะลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ ตราสารหนี้ภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน อย่างไรก็ดี กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝากในต่างประเทศหรือบางส่วน ได้ไม่เกินร้อยละ 0.00 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนหรือ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนหรือหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
ขณะที่รายงานข่าวจากบลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บลจ.กำลังเปิดขายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 4 ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 มกราคม 2553 โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ และเงินฝากธนาคารพาณิชย์ อายุโครงการประมาณ 6 เดือน โดยประมาณการณ์ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.70% ต่อปี