xs
xsm
sm
md
lg

Kassetตอกย้ำกลยุทธ์ลุยหุ้นเชิงรุก มั่นใจปั้นผลตอบแทนเข้าตาแม้เสียมือดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พัชร สมะลาภา
บลจ.กสิกรไทย ตอกย้ำกลยุทธ์บริหารกองหุ้นเชิงรุก ปั้นผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี มั่นใจรักษาความสม่ำเสมอให้นักลงทุนได้ แม้เสียเมือดีให้คู่แข่ง เดินหน้าออกกองทุนเพิ่มทางเลือกต่อ จ่อลุยตราสารหนี้โลก และกองทุน Gold ETF

 นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด หรือ Kasset  เปิดเผยว่า ปี2553 ที่ผ่านมา กองทุนหุ้นของบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ โดยกองทุนหุ้นทั่วไปให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 52% กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)  ประมาณ 59% สูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยที่บวกขึ้นมา 41% อยู่ประมาณ 11% และ 18% ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีต่อเนื่องมาจากปี2552 ที่กองทุนหุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 57% และกองทุน LTF ให้ ผลตอบแทนเฉลี่ย 62% ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยบวกขึ้นมา 64% แพ้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่เล็กน้อย -7% และ -2% ตามลำดับ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การบริหารกองทุนเชิงรุก (Active Management) สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมได้จริง และบริษัทก็หวังว่าในปี 2554 นี้ จะสามารถรักษาผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายก็ตาม

 “ด้วยระบบและทีมงานที่ดีประกอบกับผู้จัดการกองทุนอาวุโสที่มีประสบการณ์ใน ธุรกิจกองทุนมากกว่า 18 ปี และผ่านวงจรธุรกิจมาแล้วถึง 4 ครั้ง จะสามารถเข้ามาช่วยดูแลในส่วนของการลงทุนแทนคุณโศภนา เจนบวร อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย ที่ลาออกไปร่วมงานกับบลจ.ไทยพาณิชย์ตั้งแต่ต้นปี2554 ต่อไปได้เป็นอย่างดี จึงอยากให้นักลงทุนสบายใจในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เพราะสไตล์การบริหารกองทุนของบริษัทมีการทำงานเป็นทีมและผลการดำเนินงานที่ ดีก็มาจาก 3 ส่วนหลักที่สำคัญ คือ 1) ระบบ 2) ทีมงาน และ 3) ตัวบุคคล”นายพัชระกล่าว
โศภนา เจนบวร
กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทยกล่าวอีกว่า ในปี2554 นี้ บริษัทมีแผนจะนำเสนอกองทุนให้มีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในนั้นก็คือ กองทุนเปิดตราสารหนี้โลก แม้บริษัทจะไม่ได้เป็นบลจ.แรกที่ออกกองทุนในลักษณะนี้ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนบริษัทก็มีแผนที่จะนำ เสนอกองทุนเปิดตราสารหนี้โลกมาเติมเต็มทางเลือกให้กับนักลงทุนด้วยเช่นกัน

 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะออกกองทุน Gold ETF ที่สามารถทำการซื้อขายได้แบบเรียลไทม์ด้วย เพราะปัจจุบันกองทุนเค โกลด์ (K-GOLD) ของบริษัทก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ประมาณ 5,300 ล้านบาท ซึ่งบริษัทต้องการจะตั้งกองทุน ETF Gold ขึ้นมา เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกที่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน อย่างไรก็ตามจากการศึกษาในเบื้องต้นพบปัญหาหลักในเรื่องของผู้รับฝากทองคำ เพราะหาธนาคารที่รับฝากทองคำไม่ได้ ส่วนบริษัทที่รับฝากทองคำให้กับร้านค้าทองต่างๆ นั้นก็ไม่ได้รับความเห้นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

 “ที่ สำคัญคือ ต้นทุนในการฝากทองคำค่อนข้างสูง ถ้าจะตั้งกองทุน Gold ETF ขึ้นมาคงต้องคำนึงถึงเรื่องต้นทุนตรงนี้ด้วย เพราะหากตั้งกองมาแล้วมีต้นทุนรวมสูงกว่ากองทุนทองคำที่มีอยู่เดิมก็อาจจะ ไม่ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งได้เช่นกัน แต่ตอนนี้บริษัทกำลังศึกษาเพื่อจะจัดตั้งกองทุน Gold ETF อยู่เพียงแต่ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ในตอนนี้ เป็นเพียงหนึ่งในทางเลือกที่อยากจะผลักดันออกมาให้กับนักลงทุนเท่านั้นเอง”กรรมการผู้จัดการกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น