บลจ.กรุงไทย ไม่ห่วงพอร์ตกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่ไหลออก ตาม "ประภา" ที่ลาออกไป พร้อมตั้งเป้าเอยูเอ็มทั้งปีโต 6.5 หมื่นล้านบาท หลังปีที่แล้วโตสุดในอุตสาหกรรมถึง 40% จ่อคิวลุย ETF อีก 4 กองรวด
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่ประภา ปูรณโชติ อดีตรองกรรมการผู้จัดการสายงาน ผู้บริหารสายงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลาออกไปเพื่อนั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการบลจ.เอ็มเอฟซีนั้น ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะในส่วนของงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เชื่อว่าเงินทุนจะไม่ไหลออกตามไปเหมือนเช่นเงินที่ไหลมาจากไอเอ็นจี หลังจากคุณชวินดา หาญรัตนกูล เข้ามาร่วมงานกับเรา เนื่องจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการเซ็นสัญญากับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไว้ประมาณ 2-3 ปี เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าฝ่ายภูมิภาค เป็นต้น ซึ่งในช่วงเวลาที่ได้รับในการบริหารพอร์ตกองทุนก็คงต้องทำให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บลจ.กรุงไทยบริหารอยู่มั่นใจในการทำงานของบลจ.ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราเองมีการสรรหาบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนคุณประภาไว้แล้ว และเชื่อว่าจะสามารถสานต่องานได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนงานในปีนี้ นายสมชัยกล่าวว่า บลจ.กรุงไทยตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประมาณ 15,000 ล้านบาท กองทุนรวม 20,000 ล้านบาท กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 15,000 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคลอีก 15,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 65,000 ล้านบาทหรือประมาณ 20% จาก AUM รวมทั้งหมด 325,000 ล้านบาท เป็น 386,500 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2553 ที่ผ่านมา AUM ของบลจ.กรุงไทยมีการเติบโตมากที่สุดในอุตหสกรรมประมาณ 40% อีกด้วย
ส่วนกองทุนอินฟราสตัคเจอร์ฟันด์ หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ทางเราคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการพิจาณาและให้ความรู้รวมถึงศึกษาพูดคุยกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจถึงข้อดีข้อเสียของการมีกองทุนอินฟราสตัคเจอร์ฟันด์พอสมควร ในขณะที่ภาคเอกชนเชื่อว่าจะมีความพร้อมมากกว่า โดยงานในส่วนนี้ จะโอนมาให้คุณชวินดา หาญรัตนกูล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทุนส่วนบุคคล เข้ามาดูแลเพิ่มเติมเนื่องจากโครงสร้างของกองทุนอินฟราสตัคเจอร์ฟันด์นั้นมีความคล้ายกับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ดูแลอยู่ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บลจ.กรุงไทยเตรียมจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มอีก 1 กองทุน นั่นคือ กองทุนที่ลงทุนในห้างพันธุ์ทิพย์
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมออกกองทุน ETF เพิ่มอีก 4 กองทุน โดยกองทุนแรก เป็น ETF ที่เป็น Sector Fund ซึ่งได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ส่วนอีก 3 กองทุน เป็น ETF ที่ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ในการออกกองทุนแบบเพคคู่ 3 กองด้วยกัน เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนในกับนักลงทุน โดยในส่วน 3 กองทุนดังกล่าว บริษัทและตลาดจะทำตลาดร่วมกัน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์เอง ยังจะร่วมลงทุนด้วย