xs
xsm
sm
md
lg

แอสเซทพลัสสนกองอสังหาฯ แย้มปีนี้คอมมอดิตี้เทรนด์ขาขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.แอสเซทพลัส แย้มสนใจกองทุนพร็อพเพอร์ฟันด์ แต่ขอศึกษารายละเอียดก่อน พร้อมเผยเทรนด์การลงทุนปีนี้สินค้าประเภทคอมมอดิตี้มาวิน น่าลงทุนสุด ส่วนตราสารหนี้ระยะยาวปีนี้ไม่ค่อยจูงใจนักลงทุน ด้านหุ้นยังผันผวนอยู่มาก ต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) แอสเซทพลัส จำกัด เปิดเผยว่า การบริหารจัดการกองทุนบริษัทขณะนี้ เรามีครบเกือบหมดทุกกองทุนให้นักลงทุนได้เลือกสรรตามความเหมาะสมที่จะเข้ามาลงทุน ยกเว้นแต่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์เท่านั้นที่บริษัทยังไม่มี แต่บริษัทเองก็ยังให้ความสนใจกับกองทุนดังกล่าวอยู่ และกำลังทำการศึกษาอยู่เหมือนกัน

“กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เราก็สนใจอยู่ และก็ศึกษาอยู่มาก เนื่องจากว่ามันมีข้อความของกฎหมายหรือกฎบังคับใช้ที่เรายังมองว่ามันยังไม่ค่อยชัดเจน ยังคงมีความคลุมเครืออยู่หลายอัน และตลาดอสังหาริมทรัพย์ดี ๆในบ้านเราก็มีน้อย เช่น CPN กรุ๊ปในเครือเซ็นทรัลทั้งหลาย และเครือของไทคอน ที่ดูจะมีศักยภาพที่ดี ซึ่งเราก็อยากได้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้เหมือนกัน เราก็ทำการศึกษาอยู่แต่มันยังหาสินทรัพย์ที่ถูกใจยังไม่ได้ ในอนาคตถ้าเราเจอสินทรัพย์ที่ถูกใจและคิดว่าโอกาสที่เราเจอสินทรัพย์ที่ดีก็อาจจะมีการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว นอกจากนี้ สิ่งที่เรามองอยู่คือเป็นธุรกิจที่เป็นเรียวเซกเตอร์ที่หากินกับการทำงานจริงๆ ส่วนใหญ่ก็น่าจะอยู่ในกลุ่มประเภทโรงงาน หรือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้เกิดกระแสเงินสดได้จริง ๆ"นายวันกล่าว

สำหรับการลงทุนในช่วงขาขึ้น นายวินกล่าวว่า ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภคบริโภคโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร หรือน้ำมัน น่าสนใจลงทุน เนื่องจากว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น แล้วการบริโภคก็ต้องกลับมา ดังนั้นเราจึงคิดว่าสินค้าประเภทดังกล่าวน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี

“การบริโภคดีขึ้นอนาคตสินค้าก็ต้องมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เราต้องคิดง่าย ๆ ว่า พื้นที่บริโภคสินค้ามีจำนวนจำกัด ดังนั้นถ้าการบริโภคมีมากขึ้นขณะที่ผลผลิตมีจำนวนจำกัดอยู่แล้ว มันก็อาจจะทำให้มีการปรับราคาขึ้นมาได้” นายวิน กล่าว

นายวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในช่วงขาลงของปีนี้ และควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด คาดว่าน่าจะเป็น กองทุนประเภทตราสารหนี้ระยะยาว เพราะเรามองว่าเงินเฟ้อจะขึ้น ทำให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. อาจจะมีการรปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งไม่ใช่ของในประเทศไทยอย่างเดียวแต่จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นทั่วโลก ดังนั้นถ้านักลงทุนเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว ก็ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น ยกเว้นว่าผู้จัดการกองทุนหรือบลจ.นั้นๆ จะมีการปรับแผนไว้แล้ว ซึ่งเราเองก็ได้มีการปรับแผนไว้บ้างแล้วเพื่อรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวในปีนี้คาดว่าจะเปิดขายไม่มากนัก เมื่อเทียบกับปีที่แล้วหรือปีก่อนหน้า และอย่างปีที่แล้วกับปี 2551 จะเห็นว่าเศรษฐกิจแย่เราก็จะแนะนำให้นักลงทุนในกองทุนดังกล่าว แต่พอเศรษฐกิจดีขึ้นเราก็ไม่ค่อยจะแนะนำแล้ว

ส่วนการลงทุนหุ้นปีนี้มองว่า ยังคงมีความผันผวนอยู่มาก เนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านมาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาเยอะ ดังนั้น ในปีนี้ดูเหมือนว่ามันจะดีแต่ไม่รู้ว่าต่อไปจะดีหรือไม่หรือดีจริงๆ หรือว่าจะกลับมาค่อนข้างแย่ ซึ่งลักษณะนี้ทำให้มีปัจจัยเข้ามากระทบค่อนข้างเยอะ พอมีปัจจัยเข้ามากระทบค่อนข้างเยอะก็จะทำให้หุ้นมีความผันผวน ฉะนั้นเราต้องเลือกให้ได้ว่าหุ้นตัวไหนจะอยู่และตัวไหนจะมา ก็ต้องมีการเลือกหุ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น