บลจ.แมนูไลฟ์ ปรับพอร์ตกองหุ้นใหม่ ทิ้งหุ้นกลุ่มสื่อสารลดความเสี่ยง คาดหากรัฐบาลฟ้องร้องจะเกิดความเสียหายต่อมูลค่าหุ้นเฉลี่ยถึง 20% ก่อนหันเก็บหุ้นอสังหาฯแบงก์พาณิชย์เพิ่ม เชื่ออัตราเติบโตดีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง
นายพนุกร จันทรประภาพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีการปรับพอร์ตกองทุนหุ้นที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท โดยลดน้ำหนักหุ้นในกลุ่มสื่อสารที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องจากการเทขายของนักลงทุน
ทั้งนี้ จากการตัดสินของศาลบริษัทได้ประเมินว่าหากทางรัฐบาลมีการฟ้องร้องต่อบริษัทเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อมูลค่าหุ้นเฉลี่ย 20% ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน และมีความไม่แน่นอนในเรื่องดังกล่าวสูง โดยบริษัทยังไม่ทราบว่าหากมีการฟ้องร้องขึ้นมาบริษัทต่างๆเหล่านี้จะต้องเสียค่าปรับให้แก่ภาครัฐหรือไม่ ซึ่งกว่าที่เรื่องดังกล่าวจะเจอกับข้อสรุปที่ชัดเจนนั้นคาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน จึงทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อเหตุการณ์ดังกล่าวมีการเทขายหุ้นในกลุ่มนี้ออกมาเพื่อทำกำไรและลดความเสี่ยงจากการลงทุน
"เราได้มีการทยอยขายหุ้นในกลุ่มสื่อสารออกมาเพื่อทำกำไรและลดความเสี่ยง เพราะหุ้นดังกล่าวได้รับผลกระทบจากการตัดสินคดี ขณะนี้สำหรับหุ้นในกลุ่มดังกล่าวเราได้ให้น้ำหนักน้อยกว่าตลาด จากนั้นเราหันมาลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ไว้ในพอร์ตการลงทุนแทน และลดสัดส่วนการถือเงินสดลงเหลือเพียง 4% เท่านั้น"นายพนุกรกล่าว
นายพนุกร กล่าวอีกว่า การให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั้น เนื่องจากบริษัทมองว่าหุ้นในกลุ่มนี้หลายตัวมีการปรับตัวลดลงมาก จากการปรับมาตรการทางด้านภาษีอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง อีกทั้งบริษัทมองว่าการที่เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังไม่มีความชัดเจน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้การลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จึงมีความน่าสนใจ ดังนั้นการที่หุ้นกลุ่มนี้ได้ปรับตัวลดลงไปก่อนหน้านี้จึงถือเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน
"บริษัทเหล่านี้ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายตัวขึ้นอีก ซึ่งเรามองว่ากำไรของบริษัทเหล่านี้ยังดีอยู่"นายพนุกร กล่าว
ขณะเดียวกัน สำหรับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทย พบว่าราคาหุ้นนั้นถูกมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้นธนาคารพาณิชย์อื่นๆในเอเชีย โดยธนาคารพาณิชย์ไทยมีเเผนพร้อมทั้งการตั้งเป้าการจ่ายสินเชื่อเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมองว่าในปีนี้ผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี อย่างไรก็ตาม สำหรับการปรับพอร์ตการลงทุนในครั้งนี้เป็นปรับพอร์ตตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
