xs
xsm
sm
md
lg

เลือกหุ้นที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แม้นักลงทุนรวมไปถึงบุคคลทั่วไปจะวิตกกังวลต่อการชุมนุมที่จะเกิดขึ้น แต่ภาวะตลาดหุ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา(8 - 12 มี.ค.)ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวมากนัก โดยดัชนียังปรับตัวยืนอยู่เหนือ 700 จุดได้ แม้ว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีจะปรับตัวลดไปอยู่ในแดนลบบ้างก็ตาม โดยตลาดหุ้นต่ำสุดของสัปดาห์อยู่ที่ 718.77 จุด เมื่อวันอังคารที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันมูลค่าการซื้อขายตลอดทั้งสัปดาห์นั้น แม้จะเบาบางลงไปบ้างจากความวิตกกังวล รวมไปถึงการขายทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุน แต่เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก็ได้ส่งผลในทางลบมากนัก ในทางกลับกันนักลงทุนต่างชาติยังคงเข้าเก็บหุ้นในตลาดบ้านเราอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 12 มี.ค. แม้จะมีการนัดรวมพลของกลุ่มคนเสื้อแดงเกิดขึ้นจนทำให้ตลาดหุ้นมีปรับตัวอยู่ในแดนลบเมื่อช่วงเช้าแต่เมื่อเปิดตลาดอีกครั้งในช่วงบ่าย ตลาดหุ้นก็สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดตลาดที่ 733.34 จุด เพิ่มขึ้น 7.39 จุด (1.02%) มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 15,032.40 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าปิดตลาดวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ผ่านมาจะพลิกขึ้นยืนเหนือ 730 จุดได้ แต่สำหรับสัปดาห์(15-19 มี.ค.)นักลงทุนควรที่จะติดตามสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด ...

ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือ AYF บอกว่า สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นนั้น สัปดาห์นี้นักลงทุนจะต้องจับตาปัจจัยทางการเมืองอย่างใกล้ชิดว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร โดยหากสถานการณ์ต่างๆสามารถคลี่คลายลงไปได้ หรือสามารถที่จะเคลียร์ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้ และการชุมนุมไม่ยืดเยื้อ มีฝ่ายที่แพ้หรือชนะอย่างชัดเจน ตลาดหุ้นในประเทศอาจจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนกล้าที่จะกลับเข้ามาลงทุนมากขึ้น

ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ หากตลาดหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุน อาจจะทำให้มีการเทขายหุ้นของนักลงทุนเพื่อทำกำไรในระยะสั้นได้
ขณะเดียวกัน หากการชุมนุมยังยืดเยื้อต่อไปอีก เหตุการณ์ต่างๆไม่มีความรุนเเรงเกิดขึ้น หรือรัฐบาลสามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบได้นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นให้ปรับตัวลดลง จากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เทขายหุ้นออกมาเนื่องจากขาดความเชื่อมั่นต่อการลงทุน และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น

นอกจากนี้ จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยโดยจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจ รวมไปถึงการเติบโตไม่ดีมากนัก ดังนั้นหากการชุมนุมยืดเยื้อออกไปอีกจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนได้และการลงทุนในตลาดทุนจะชะลอตัวได้

 ประภาส กล่าวอีกว่า สำหรับการลงทุนในแง่ของอุตสาหกรรม พบว่า อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ ไฟฟ้า พลังงาน และค้าปลีก เป็นกลุ่มที่นักลงทุนสามารถลงทุนในระยะยาวได้ อีกทั้งในระยะสั้นนั้นจะเป็นหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองน้อยที่สุด และอีกกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่หุ้นกลุ่มธนาคาร
 ขณะที่หุ้นกลุ่มที่คาดว่าได้รับผลกระทบคือกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ค่อยเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้มีการชะลอการลงทุนและยอดขายของอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตามไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น