2 บลจ. เดินหน้าขายบอนด์เกาหลีใต้ หลังต้นทุนสวอปปรับตัวลดลง ดันผลตอบแทนเพิ่มขึ้น กสิกรไทย เปิดขายอีก 3 กองทุนระหว่างวันนี้ถึง 27 มกราคมนี้ ชูผลตอบแทนสูงสุดประมาณ 2% ต่อปี พร้อมเพิ่มทางเลือกลูกค้าชอบลงทุนในประเทศ เปิดขายกองตราสารหนี้ภาครัฐอีก 1 กอง ส่วนนครหลวงไทยล่าสุด เปิดไอพีโอกองทุนอายุ 9 เดือน คาดผลตอบแทนที่ 1.45%
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถาการณ์การลงทุนของพันธบัตรภาครัฐเกาหลีขณะนี้อัตราผลตอบแทนเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยตามดอกเบี้ยสวอประหว่างสกุลเงินบาทและดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้น และยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลในประเทศอายุเฉลี่ยใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุน และรองรับเม็ดเงินจากกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลีที่ทยอยครบอายุ บริษัทจึงเตรียมเสนอทางเลือกสำหรับนักลงทุนจำนวน 3 กองทุนระหว่างวันที่ 21-27 มกราคมนี้ ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 3 เดือน จี (KKG3MG) ขนาดกองทุน 3,000 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 3 เดือน ประมาณการอัตราผลตอบแทน 1.00% ต่อปี กองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี บีอี (KKG1YBE) ขนาดกองทุนกองทุน 2,000 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี โอกาสรับผลตอบแทน 1.40% ต่อปี และกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 22 เดือน อี (KKG22ME) ขนาดกองทุน 2,700 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 22 เดือน ประมาณการผลตอบแทนที่ 2.00%
นอกจากกลุ่มกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลีแล้ว เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการทางเลือกลงทุนกับตราสารในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่แน่นอน และคาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการฝากเงิน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศอีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน ดี (KFI6MD) โดยกองทุนดังกล่าว มุ่งลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเป็นหลัก มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนประมาณ 1.00% ต่อปี
ด้าน นายรุ่งโรจน์ นิลนพคุณ ผู้อำนวยการฝ่าย สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะอัตราผลตอบแทนของการลงทุนในตลาดพันธบัตรเกาหลีใต้เมื่อทำการแปลงเป็นบาทพบว่ามีการปรับตัวสูงขึ้น จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาประมาณ 0.20-0.40% ต่อปี
โดยสืบเนื่องมาจากผลการประชุมของธนาคารกลางเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 8 ม.ค.53 ที่ผ่านมา ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหมือนเดิมที่ 2.00% ทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง และต้นทุนของการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน(สวอป) สกุลเงินวอนต่อดอลล่าร์สหรัฐ ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน จึงส่งผลบวกต่อนักลงทุนต่างประเทศที่เข้าไปลงทุนในตลาดพันธบัตรเกาหลีใต้ รวมถึงปัจจัยเรื่องสภาพคล่องเงินดอลลาร์สหรัฐของตลาดเงินในประเทศมีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น
ทำให้ค่าป้องกันความเสี่ยงจากสกุลดอลลาร์ต่อเงินบาท (FX Hedging) มีผลเป็นบวกมากขึ้น (FX Premium) ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมจากการลงทุนในตลาดพันธบัตรเกาหลีใต้ เมื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแบบเต็มทั้งจำนวนแล้ว มีการปรับตัวดีขึ้นจึงทำให้การลงทุนในตลาดเกาหลีใต้กลับมามีความน่าสนใจมากขึ้นอีกครั้ง เมื่อเทียบกับการลงทุนในประเทศ
ขณะเดียวกัน ในช่วงสัปดาห์นี้ผลตอบแทนของพันธบัตรเกาหลีใต้ถือว่ายังเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน บริษัทจึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 9 เดือน2/10 อายุโครงการประมาณ 9 เดือน มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยมีอัตราผลตอบแทนประมาณ 1.45% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่าย 0.50% ต่อปี)
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 22 เดือน1/10 (NKT FFI22M1/10) ที่เปิดเสนอขายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 14-20 ม.ค.53) มีการปรับอัตราผลตอบแทนคาดการณ์เพิ่มขึ้น 2.20% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.50%) จากเดิม 2.00% ต่อปี
