บลจ. วรรณ มองปีนี้ทิศทางตลาดหุ้นไทยผันผวน แนะนักลงทุนลงทุนอย่างมีเป้าหมาย พร้อมคลอดกองทุนประเภทกองทาร์เก็ตฟันด์กองใหม่มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาทเพื่อระดมทุนเพิ่ม โดยวางเป้าผลตอบแทนที่ 20% ก่อนจ่ายเงินคืนช่วงปลายเดือนนี้ ขณะเดียวกันเตรียม พร้อมวางแผนส่งโรลโอเวอร์ตราสารหนี้ไทยและเกาหลีใต้เรียกเม็ดเงินตลอดทั้งปี
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นปีนี้ ค่อนข้างที่จะมีความผันผวน เนื่องจากปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้น แต่ทั้งนี้การเลือกลงทุนในตลาดหุ้นนั้น สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้
โดยบริษัทอยากแนะนำให้นักลงทุนมองการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่แน่นอนในช่วงที่ตลาดหุ้นที่ผันผวน ทำให้การเลือกลงทุนในกองทุนที่มีการวางเป้าผลตอบแทนที่ชัดเจนจึงถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนเช่นนี้
โดยขณะนี้ บริษัทเตรียมจัดตั้งกองทุนรวมประเภททาร์เก็ตฟันด์ออกมาให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในตลาดหุ้น โดยมีการวางมูลค่าโครงการอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท พร้อมทั้งวางเป้าผลตอบแทนไว้ที่ 20% ทั้งนี้ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 20 % ตามที่บริษัทกำหนดไว้ บริษัทจะมีการปิดกองทุนแล้วจ่ายคืนเงินให้แก่นักลงทุน และคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถเปิดขายได้ในช่วงปลายเดือน มกราคม 2553 นี้ ซึ่งถือเป็นกองทุนกองแรกที่เปิดขายของปีนี้
นายมนรัฐ กล่าวอีกว่า นอกจากการจัดตั้งกองทุนประเภทกองทุนทาร์เก็ตฟันด์แล้วนั้น บริษัทได้มีกองทุนโรลโอเวอร์ระยะสั้นออกมาให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนอีกด้วย โดยหลังจากนี้บริษัทได้มีกองทุนโรลโอเว่อร์ครบกำหนดอายุโครงการหลายกองทุน ไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ หรือกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย
ทั้งนี้ บริษัทจะมีการจัดตั้งกองทุนโรลโอเวอร์กองใหม่เพื่อรองรับความต้องการพร้อมทั้งเม็ดเงินของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าหลังจากนี้บริษัทจะมีกองทุนโรลโอเว่อร์ที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ออกมาตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ
อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนการออกกองทุนเพื่อรองรับเม็ดเงินจากนักลงทุน โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 53 จะมีกองทุนโรลโอเว่อร์ที่ลงทุนในตราสารหนี้เกาหลีใต้ออกมาให้นักลงทุนได้เข้าร่วมลงทุน
โดยบริษัทมองว่าการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้นั้นยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรรัฐบาลไทย ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผลตอบแทนจะมีการปรับตัวลดลงไปบ้าง และในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะมีกองทุนโรลโอเว่อร์ในประเทศที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยออกมาให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน
"สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทมองว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับอานิสงส์จากเม็ดเงินจากโครงการไทยเข้มแข็งช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ในช่วงนั้นอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตราสารหนี้ได้ ทำให้เรามองว่าผลตอบแทนของพันธบัตรไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวแรงกว่าพันธบัตรเกาหลี ดังนั้น ในครึ่งปีหลัง การลงทุนในประเทศจึงมีความน่าสนใจกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ แต่ทั้งนี้ เราจะต้องรอดูปัจจัยต่างๆประกอบด้วย" นายมนรัฐ กล่าว