xs
xsm
sm
md
lg

ยูโอบีหาโมเดลลงทุนใหม่ หลังยิลด์บอนด์กิมจิลดลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ยูโอบี ศึกษารูปแบบการลงทุนใหม่ จับโมเดลยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ คาดเบิกฤกษ์ได้ต้นปีหน้า หลังผลตอบแทนบอนด์กิมจิลดลง จนต้องยกเลิกขาย คาดว่าไม่กระทบเอยูเอ็มของปีนี้ พร้อมเดินหน้าลุยขายกองทุนแอลทีเอฟ-อาร์เอ็มเอฟแทน

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการหาสินทรัพย์ และรูปแบบการลงทุนใหม่ โดยเบื้องต้นจะมีลักษณคล้ายกับกองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ (UOBSS) ที่มีการตั้งเป้าหมายผลตอบแทนเอาไว้ แต่จะมีการลงทุนในรูปแบบอื่น อาทิ หุ้นในต่างประเทศ เช่น จีน และสินทรัพย์อื่น แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดเป้าหมายเอาไว้ โดยขึ้นอยู่กับอายุโครงการว่าอยู่ที่กีปี แต่มองว่าน่าจะกำหนดผลตอบแทนไว้ใกล้เคียงกับการลงทุนในประเทศ และอายุโครงการน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1- 2 ปี คาดว่าจะได้ผลสรุปประมาณเดือนมกราคม 2553

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะมีกองทุนต่างประเทศอยู่แล้วหลายกองทุน แต่บริษัทให้ความสนใจออกกองทุนที่ต้งเป้าหมายผลตอบแทนออกมา และจะมีการเข้าไปให้ความรู้แก่นักลงทุนมากขึ้น ซึ่งวิกฤติการณ์ที่เกิดกับบริษัท ดูไบ เวิลด์ ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก และตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาดัชนีเริ่มกลับไปอยู่ในแดนบวกได้อีกครั้ง เชื่อว่าหลังจากนี้น่าจะมีตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศจีน และสหรัฐอเมริกาตามมาอีกเป็นระยะแน่นอน และโดยรวมแล้วถือว่าวิฤติการณ์ดูไบ เวิลด์กระทบน้อยกว่าวิกฤติการ์ทุกครั้งที่ผ่านมาด้วย

ขณะเดียวกัน ในช่วงต้นปีหน้าหากกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ ก็จะกลับไปออกกองทุนดังกล่าว แต่ในช่วงนี้คงต้องยกเลิกการออกกองทุนประเภทนี้ออกไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2552 นี้ก่อน เพราะว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมาก โดยจะหันมาเน้นขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) เป้นหลัก โดยยังมีโปรโมชั่นร่วมกับธนาคารยูโอบีไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2553

นายวนา กล่าวว่า การที่บริษัทยกเลิกแผนงานออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้น่าจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท (เอยูเอ็ม) ในแง่ของการปรับเพิ่มขึ้นของเอยูเอ็มมากกว่า แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบในด้านการลดลงไปของเอยูเอ็ม โดยในปัจจุบันเอยูเอ็มอยู่ที่ประมาณ 5.7 – 5.8 หมื่นล้านบาท และคาดว่าน่าอยู่ใระดับนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2552 ได้แน่นอน ทั้งนี้ บริษัทได้มีการออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้มาแล้ว 2 กองทุน และมูลค่าโครงการรวมประมาณ 2.4 พันล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น