บลจ.ยูโอบีพอใจ ผลตอบรับกอง “โคเรียน บอนด์ 6/1” หลังจากรับอานิสงส์ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแดนโสมขยับขึ้น ลุยออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลแดนโสมรองรับกองทุนประเภทเทอม ฟันด์ จ่อคลอด “ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 3” ต้นเดือน พ.ย.นี้
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดขายกองทุนเปิดยูโอบี โคเรียน บอนด์ 6/1 (UOBKR6/1) ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ โดยจะเปิดหน่วยลงทุนไปจนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2552 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท โดยผลตอบรับจากนักลงทุนค่อนข้างดี และมียอดขายเข้ามามากพอสมควร เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมาผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้นมาพอสมควร
ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดขายกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง หากนักลงทุนยังมีความต้องการเข้ามาลงทุนในพันธบัตรดังกล่าวอยู่ ขณะที่การลงทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ในระยะสั้นแล้วการที่ตัวเลขของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของเกาหลีใต้ออกมาค่อนข้างดี ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนบางส่วนมีความกลัวต่อการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลในการลงทุนดังกล่าวไปได้
ขณะเดียวกัน การที่ภาวะเศรษฐกิจเกาหลีใต้เริ่มกลับมาดีขึ้น และบริษัทได้ไปเริ่มเปิดขายพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ในช่วงที่เวลาที่เหมาะสม โดยจะพิจารณาออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ที่มีอายุโครงการประมาณ 6 เดิอน 9 เดือน และ 12 เดือนขึ้นไป ส่วนอายุโครงการ 3 เดือนไม่ค่อยน่าสนใจ ทั้งนี้ บริษัทจะออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้มารองรับกองทุนประเภทที่มีระยะการลงทุนที่แน่นอน (เทอม ฟันด์) ที่จะทยอยหมดอายุโครงการลงด้วย
นายวนา กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 3 (UOBSS3) ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นภายในประเทศ และตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 10% ภายใน 1 ปี โดยจะใช้อนุพันธ์ (ฟิวเจอร์) มาช่วยในการบริหารกองทุน และจับจังหวะในการลงทุน คาดว่าจะสามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่สนใจออกกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง เพราะว่าพันธบัตรส่วนใหญ่จะมีอายุยาวประมาณ 4 – 5 ปีขึ้นไป และปริมาณมีน้อยหาลำบาก ขณะที่ผลตอบแทนในปัจจุบันไม่ค่อยน่าประทับใจ แต่บริษัทจะยังคงจับตาดูอยู่ตลอดเวลา หากสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี และมีความเหมาะสมก็จะออกมาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจพิจารณาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลางที่มีอายุยาวก็ได้ แต่จะต้องมีการจ่ายผลตอบแทนรองรับอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นไปในอนาคตเรียบร้อยแล้วด้วย
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดขายกองทุนเปิดยูโอบี โคเรียน บอนด์ 6/1 (UOBKR6/1) ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ โดยจะเปิดหน่วยลงทุนไปจนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2552 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท โดยผลตอบรับจากนักลงทุนค่อนข้างดี และมียอดขายเข้ามามากพอสมควร เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมาผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้นมาพอสมควร
ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดขายกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง หากนักลงทุนยังมีความต้องการเข้ามาลงทุนในพันธบัตรดังกล่าวอยู่ ขณะที่การลงทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ในระยะสั้นแล้วการที่ตัวเลขของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของเกาหลีใต้ออกมาค่อนข้างดี ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนบางส่วนมีความกลัวต่อการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลในการลงทุนดังกล่าวไปได้
ขณะเดียวกัน การที่ภาวะเศรษฐกิจเกาหลีใต้เริ่มกลับมาดีขึ้น และบริษัทได้ไปเริ่มเปิดขายพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ในช่วงที่เวลาที่เหมาะสม โดยจะพิจารณาออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ที่มีอายุโครงการประมาณ 6 เดิอน 9 เดือน และ 12 เดือนขึ้นไป ส่วนอายุโครงการ 3 เดือนไม่ค่อยน่าสนใจ ทั้งนี้ บริษัทจะออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้มารองรับกองทุนประเภทที่มีระยะการลงทุนที่แน่นอน (เทอม ฟันด์) ที่จะทยอยหมดอายุโครงการลงด้วย
นายวนา กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 3 (UOBSS3) ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นภายในประเทศ และตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 10% ภายใน 1 ปี โดยจะใช้อนุพันธ์ (ฟิวเจอร์) มาช่วยในการบริหารกองทุน และจับจังหวะในการลงทุน คาดว่าจะสามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่สนใจออกกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง เพราะว่าพันธบัตรส่วนใหญ่จะมีอายุยาวประมาณ 4 – 5 ปีขึ้นไป และปริมาณมีน้อยหาลำบาก ขณะที่ผลตอบแทนในปัจจุบันไม่ค่อยน่าประทับใจ แต่บริษัทจะยังคงจับตาดูอยู่ตลอดเวลา หากสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี และมีความเหมาะสมก็จะออกมาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจพิจารณาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลางที่มีอายุยาวก็ได้ แต่จะต้องมีการจ่ายผลตอบแทนรองรับอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นไปในอนาคตเรียบร้อยแล้วด้วย