บลจ.ทหารไทย ปรับเพิ่มผลตอบแทนบอนด์เกาหลีใต้รุ่น 40 อายุ 6 เดือน เป็น 2.2% จากเดิม 2% หลังอัตราดอกเบี้ยแดนโสมปรับเพิ่ม ขณะที่กองทุน China Equity Index ได้เพิ่มทุนเป็น 8,000 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว เผย นักลงทุนหอบเงินเข้ามาลงทุนมากขึ้น ขณะที่บลจ. นครหลวงไทย ปรับผลตอบแทนกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ อายุประมาณ 7 เดือนอยู่ที่ 2.25% ต่อปี และกองทุนอายุประมาณ 3 อยู่ที่ 1.80% ต่อปี เปิดขายไอพีโอเเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 27 ตุลาคม 52
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับอัตราผลตอบแทนกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ รุ่น 40 อายุประมาณ 6 เดือน ที่กำลังอยู่ในระหว่างการเปิดขายในช่วงนี้ โดยจะจ่ายผลตอบแทนซึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2.20 % ต่อปี จากเดิมที่จ่ายอยู่ที่ 2.00% ต่อปี
ทั้งนี้ การปรับอัตราผลตอบแทนดังกล่าวเป็นผลมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในพันธบัตรของรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้บริษัทได้ผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่จะลงทุนในช่วงนี้ สำหรับกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้รุ่น 40 นั้นจะลงทุนในพันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนาคารแห่งชาติรัฐบาลเกาหลีใต้ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A+/ F1 จากสถาบัน Fitch Rating รวมทั้งยังป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ด้วย โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อขั้นต่ำเพียง 2,000 ได้จนถึงวันที่ 27 ต.ค. นี้
ขณะเดียวกัน บลจ. ทหารไทยรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับจดทะเบียนเพิ่มเงินทุนของกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index จำนวน 2,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทุนของโครงการทั้งสิ้น 8,000 ล้านบาทแล้ว เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมาเพื่อรองรับการเติบโตของกองทุนในอนาคต ซึ่งการเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อสิทธิใดๆ ของผู้ถือหน่วยลงทุนและไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุน (NAV) ดังนั้น ผู้ถือหน่วยลงทุนจึงสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในหนังสือชี้ชวน
นายสมจินต์ ระบุว่า การเพิ่มทุนของกองทุนดังกล่าวนั้น เนื่องจากนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในกองทุน China Equity Index เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในพันธบัตรของประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีความน่าสนใจมากขึ้น ขณะเดียวกันนักลงเริ่มมีความรู้ในการลงทุนมากขึ้นเช่นกัน
ด้านนายไตรพิชิต วัฒนวิจิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้มีการปรับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนต่างประเทศเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ผลตอบแทนของกองทุนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้ง 2 ได้แก่ กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 7 เดือน1/09 ที่มีอายุประมาณ 7 เดือน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ปรับเพิ่มอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.25% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.50%) จากเดิม 2.20%ต่อปี และกองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน2/09 อายุประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ปรับเพิ่มอัตราผลตอบแทนประมาณ 1.80% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.50%) จากเดิม 1.75% ต่อปี ลงทุนขั้นต่ำของกองทุนเพียง 2,000 บาท ราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
สำหรับนโยบายการลงทุนของกองทุนทั้ง 2 กอง จะเน้นลงทุนใน Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) และ Korea Treasury Bond (KTB) ซึ่งเป็นตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลและหรือสถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารระยะสั้น F-1 จากสถาบัน Fitch Rating โดยลงทุนในสัดส่วนประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ทั้ง 2 กองทุนยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุน เนื่องจากมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำและมีการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากไทยและบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากผลตอบแทนที่ได้รับ