xs
xsm
sm
md
lg

แนวโน้มดอกเบี้ยกับการตัดสินใจลงทุนในกองทุนตราสารหนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Design Your Life by Mutual Fund
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด
โทร 0-2679-6400
Website:www.bblam.co.th

แนวโน้มและทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนว่าควรจะลงทุนในกองทุนตราสารหนี้อายุสั้นๆ หรืออายุยาวๆ โดยทั่วไปถ้าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง ผู้ลงทุนก็จะเลือกซื้อกองทุนตราสารหนี้อายุยาวๆ เพื่อล็อคผลตอบแทนสูงๆ ไว้ก่อน แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ผู้ลงทุนมักเลือกลงทุนในกองทุนอายุสั้นๆ มากกว่า เพราะไม่อยากล็อคผลตอบแทนต่ำๆ ของวันนี้ไว้ยาวเกินไป และเมื่อกองทุนครบอายุก็ค่อยลงทุนใหม่เพื่อรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่วิธีแบบนี้ใช่ว่าจะทำให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนสูงสุดเสมอไป ??

ธรรมชาติของอัตราผลตอบแทนในระดับความเสี่ยงที่เท่ากัน กองทุนตราสารหนี้หรือตราสารหนี้อายุยาวๆ ย่อมจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุนตราสารหนี้หรือตราสารหนี้อายุสั้นๆ ถ้าอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในระยะการลงทุนที่เท่าๆ กัน สำหรับผู้ลงทุนที่ลงทุนระยะสั้นๆ แล้วต่ออายุไปเรื่อยๆ ก็ย่อมได้ผลตอบแทนต่ำกว่าผู้ลงทุนที่ลงทุนยาวๆ ไปเลยทีเดียว
ตาราง 1
แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยหรืออัตราผลตอบแทนจากกองทุนมีทิศทางเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ผู้ลงทุนที่ลงทุนกองทุนอายุสั้นๆ ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการลงทุนครั้งต่อๆ ไป แต่ทั้งนี้จะได้ผลตอบแทนสุทธิดีกว่าลงทุนยาวหรือไม่ขึ้นกับว่าอัตราผลตอบแทนใหม่ที่ได้รับนั้นเป็นเท่าไร “ชดเชย” การเสียโอกาสล็อคผลตอบแทนยาวๆ ทีเดียวได้หรือไม่ เช่น

ตาราง 2
หรืออาจเปรียบเทียบความคุ้มค่าจากอัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการเทียบสัดส่วนระยะเวลาการลงทุนว่าวิธีการลงทุนแบบใดคุ้มค่ามากกว่า เช่น
กรณีลงทุนกอง A ครั้งเดียว
ผลตอบแทน A x ระยะเวลา = 2% x 1Yr. = 2% ต่อปี
กรณีลงทุนกอง B แล้วต่อด้วยกอง C
กรณีที่1 กอง C ให้ 2%ต่อปี = (1% x 0.5Yr.) + (2% x 0.5Yr.) = 1.50%ต่อปี
กรณีที่2 กอง C ให้ 3%ต่อปี = (1% x 0.5Yr.) + (3% x 0.5Yr.) = 2.00%ต่อปี
กรณีที่3 กอง C ให้ 4%ต่อปี = (1% x 0.5Yr.) + (4% x 0.5Yr.) = 2.50%ต่อปี

จะเห็นว่าอัตราผลตอบแทนที่จะได้ในอนาคตจะมีผลต่อผลตอบแทนสุทธิอย่างมาก ว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะเลือกลงทุนสั้นๆ 6 เดือนสองครั้ง แทนการลงทุนยาว 1 ปีไปเลยเพียงครั้งเดียว เพราะหากในอนาคตอัตราผลตอบแทนไม่ได้เพิ่มขึ้นสูงเพียงพอสำหรับการชดเชยผลตอบแทนที่เสียไปจากการลงทุนช่วงแรก การลงทุนอายุสั้นๆ สองครั้งก็จะไม่คุ้มค่าเทียบกับการลงทุนอายุยาวๆ ในครั้งเดียว

ดังนั้นการลงทุนในช่วงทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จึงไม่จำเป็นว่าการลงทุนกองทุนตราสารหนี้อายุสั้นๆ จะดีกว่าเสมอไปครับ

มุ่งสู่ความสำเร็จทางการลงทุนด้วยกองทุนรวม ในงาน มหกรรมครบวงจรแห่งปี SET in the city กรุงเทพ 2009 วันที่ 12-15 พ.ย 52 นี้ เวลา 10.00-20.00 น .รอยัล พารากอน ฮออล์ ชั้น 5 สยามพารากอน
กำลังโหลดความคิดเห็น