บลจ.ธนชาต ชี้ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ หุ้นไทยเริ่มนิ่ง แนะนักลงทุนเริ่มทยอยซื้อเก็บได้ แต่ราคาอาจยังแพงอยู่ เผยที่ผ่านมาผลงานกองทุนสวย แม้ดัชนีแกว่งตัว เล็งทยอยซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานเพิ่ม
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังทยอยปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้การลงทุนในขณะนี้ ปัจจัยพื้นฐานยังคงมีราคาที่แพงที่อยู่ หรือยังคงมีความผันผวนอยู่ ดังนั้น นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในช่วงนี้ยังคงต้องรอดูความชัดเจนให้แน่ชัดกว่านี้กว่า
ทั้งนี้ ในส่วนกองทุนหุ้นของบริษัทเองก็เช่นกัน จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ช่วง 3 เดือน และ 6 เดือนจะเห็นว่าไม่ค่อยดีนัก แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเห็นว่าต่อจากนี้ไปเศรษฐกิจเริ่มที่จะฟื้นตัวบริษัทเองคงต้องเริ่มทยอยเข้าไปลงทุนอย่างระมัดระวัง เพราะหลังจากนี้ไป ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายที่เหลือคาดว่าหุ้นไทยเองคงไม่แกว่งตัวแรงเหมือนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถ้านักลงทุนจะเลือกเข้าไปลงทุนก็สามารถทำได้แต่อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่ายังคงต้องทยอยซื้อเก็บไว้
"ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหุ้นมีการแกว่งตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ 3 เดือนทีเหลือของปีนี้คาดว่าจะแกว่งตัวน้อยลง และสามารถที่จะเริ่มทยอยเข้าไปช้อนซื้อหุ้นได้ เพราะที่ผ่านมาหุ้นได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว" นายบุญชัยกล่าว
สำหรับกองทุนหุ้นที่บริษัทบริหารจัดการขณะนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 8 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดเพิ่มพูนทรัพย์ปันผล ณ วันที่ 29 กันยายน 2552 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิหรือ เอ็นเอวีอยู่ที่ 661.04 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.07 บาท 2. กองทุนเปิดธนชาติทุนเพิ่มทวี มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 338.45 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 18.68 บาท 3. กองทุนเปิดธนชาติฟันดาเมนทอล พลัส มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 305.29 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 13.69 บาท 4. กองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 294.84 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 5.30 บาท 5. กองทุนเปิดสินไพฑูรย์ มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 218.74 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 5.79 บาท 6. กองทุนเปิดออมสินพัฒนาภูมิภาค มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 2,371.16 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 12.96 บาท 7. กองทุนเปิดอุดมทรัพย์ปันผล มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 724.77 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 6.10 บาท และ 8. กองทุนเปิดอุดมทรัพย์ปันผล 2 มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 815.29 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 6.88 บาท
นอกจากนี้ ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2552 กองทุนหุ้นทั้ง 8 กองทุนส่วนใหญ่จะเลือกเข้าไปลงทุนในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค กลุ่มธนาคาร กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มสื่อสาร กลุ่มการแพทย์ กลุ่มธุรกิจการเกษตร กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังทยอยปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้การลงทุนในขณะนี้ ปัจจัยพื้นฐานยังคงมีราคาที่แพงที่อยู่ หรือยังคงมีความผันผวนอยู่ ดังนั้น นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในช่วงนี้ยังคงต้องรอดูความชัดเจนให้แน่ชัดกว่านี้กว่า
ทั้งนี้ ในส่วนกองทุนหุ้นของบริษัทเองก็เช่นกัน จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ช่วง 3 เดือน และ 6 เดือนจะเห็นว่าไม่ค่อยดีนัก แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเห็นว่าต่อจากนี้ไปเศรษฐกิจเริ่มที่จะฟื้นตัวบริษัทเองคงต้องเริ่มทยอยเข้าไปลงทุนอย่างระมัดระวัง เพราะหลังจากนี้ไป ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายที่เหลือคาดว่าหุ้นไทยเองคงไม่แกว่งตัวแรงเหมือนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถ้านักลงทุนจะเลือกเข้าไปลงทุนก็สามารถทำได้แต่อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่ายังคงต้องทยอยซื้อเก็บไว้
"ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหุ้นมีการแกว่งตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ 3 เดือนทีเหลือของปีนี้คาดว่าจะแกว่งตัวน้อยลง และสามารถที่จะเริ่มทยอยเข้าไปช้อนซื้อหุ้นได้ เพราะที่ผ่านมาหุ้นได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว" นายบุญชัยกล่าว
สำหรับกองทุนหุ้นที่บริษัทบริหารจัดการขณะนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 8 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดเพิ่มพูนทรัพย์ปันผล ณ วันที่ 29 กันยายน 2552 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิหรือ เอ็นเอวีอยู่ที่ 661.04 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10.07 บาท 2. กองทุนเปิดธนชาติทุนเพิ่มทวี มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 338.45 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 18.68 บาท 3. กองทุนเปิดธนชาติฟันดาเมนทอล พลัส มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 305.29 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 13.69 บาท 4. กองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 294.84 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 5.30 บาท 5. กองทุนเปิดสินไพฑูรย์ มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 218.74 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 5.79 บาท 6. กองทุนเปิดออมสินพัฒนาภูมิภาค มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 2,371.16 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 12.96 บาท 7. กองทุนเปิดอุดมทรัพย์ปันผล มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 724.77 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 6.10 บาท และ 8. กองทุนเปิดอุดมทรัพย์ปันผล 2 มีเอ็นเอวีอยู่ที่ 815.29 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 6.88 บาท
นอกจากนี้ ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2552 กองทุนหุ้นทั้ง 8 กองทุนส่วนใหญ่จะเลือกเข้าไปลงทุนในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค กลุ่มธนาคาร กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มสื่อสาร กลุ่มการแพทย์ กลุ่มธุรกิจการเกษตร กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
